"เพื่อไทย"เตรียมยื่น กกต.-ปปช.สอบครม.นัดทิ้งทวน-เทกระจาด

ข่าวการเมือง Tuesday May 3, 2011 17:57 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงถึงการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ครั้งสุดท้ายที่มีวาระเข้าสู่ที่ประชุมมากถึง 162 วาระว่า ถือเป็นการพิจารณาอนุมัติงบทิ้งทวนแบบไม่เกรงใจประชาชน ไม่เคยมีที่ไหนในโลกที่พิจารณาวาระที่เข้าประชุมมากขนาดนี้ใน 1 วัน ทั้งนี้ หากมีความไม่ชอบมาพากลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมตรีและครม.ทั้งคณะต้องรับผิดชอบ เบื้องต้นตนและทีมงานจะยื่นเรื่องให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ตรวจสอบก่อน จากนั้นจะยื่นเรื่องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ปปช.)ตรวจสอบต่อไป

นายวิม รุ่งวัฒนจินดา รองโฆษกพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า การประชุม ครม.ในวันนี้ ซึ่งรัฐบาลคิดว่าน่าจะเป็นการประชุมครั้งสุดท้ายของรัฐบาล มีการบรรจุวาระการประชุมในครม.มากกว่า 140 วาระ คาดว่าจะใช้เวลาประชุมยาวนานถึงเที่ยงคืน และได้มีการตั้งข้อสังเกตุว่ากระทรวงต่างๆได้เสนอของบประมาณมากกว่า 1.2 แสนล้านบาท ซึ่งพูดได้ว่าเป็นการประชุมครม.นัดสั่งลาเพื่ออนุมัติงบประมาณไปใช้ในการหาเสียง

นอกจากนี้ยังมีความพยายามผลักดันโครงการต่างซึ่งมีงบผูกพันข้ามปี และแต่งตั้งพรรคพวกของตนเองทางการเมืองเข้ารับตำแหน่งในคณะกรรมการสำคัญๆ เช่น คณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย คณะกรรมการกรต. ที่เสนอบุคคลที่ด้อยอาวุโส และ ประสบการณ์ข้ามหัวบุคคลที่มีความรู้ความสามารถ ขึ้นมาเป็นประธานคณะกรรมการกรต. ในขณะที่บุคคลระดับผู้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทย ปลัดกระทรวงการคลัง และ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ได้เป็นแค่คณะกรรมการ และที่สำคัญคณะกรรมการชุดดังกล่าวจะต้องหมดวาระลงในเดือนกรกฎาคมที่จะถึงนี้ โดยมารยาทควรปล่อยให้เป็นหน้าที่ของรัฐบาลใหม่

อีกทั้ง ยังมีการขออกกฎหมายเกี่ยวกับภาษีอากร ซึ่งรัฐบาลไม่ควรพึงกระทำโดยเด็ดขาด เว้นแต่ในกรณีที่มีความจำเป็นเร่งด่วนเท่านั้น รวมทั้งการเสนอให้มีการจัดเก็บภาษีรถยนต์จากเครื่องวัดเครื่องยนต์ มาเป็นการจัดเก็บโดยใช้เครื่องวัดมลพิษเป็นเกณฑ์กำหนดอัตราภาษี ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่จะต้องมีการหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างรอบด้าน เพราะถือเป็นเรื่องที่มีปัญหาค่อนข้างมาก

ส่วนการเสนอแก้ไขประกาศหน่วยงานราชการที่นำมาเสนอในวันสุดท้ายเป็นเรื่องที่ไม่มีรัฐบาลชุดไหนเคยทำมาก่อน รวมทั้งการของบช่วยเหลือผู้ประสพภัยของ ธกส. และ ธพว. และโครงการไทยเข้มแข็งเป็นเรื่องที่ไม่มีความชัดเจนขณะที่คนในกระทรวงการคลังซึ่งเป็นคนพิจารณางบยังงง เพราะมีแต่โครงการไม่มีรายละเอียด


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ