สถานการณ์การเมืองในตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือยังคงร้อนแรง ขณะที่กระทรวงกลาโหมและมหาดไทยของตูนีเซียได้ประกาศใช้กฎเคอร์ฟิวตั้งแต่ 21.00 - 05.00 น.ในหลายพื้นที่เมื่อวานนี้ หลังจากที่เกิดเหตุประท้วงมาเป็นเวลาหลายวัน
เหตุการณ์ความไม่สงบเกิดขึ้นเมื่ออดีตรัฐมนตรีกลาโหมของตูนีเซียประกาศว่า อาจจะเกิดการปฏิวัติขึ้น หากพรรคเอ็นนาดา ซึ่งเป็นพรรคสำคัญของชาวมุสลิมชนะการเลือกตั้งที่จะจัดขึ้นในวันที่ 24 ก.ค.นี้
ขณะที่การประท้วงในซีเรียก็รุนแรงขึ้น โดยเจ้าหน้าที่หน่วยความมั่นคงซีเรียกราดยิงเข้าใส่กลุ่มผู้ประท้วงต่อต้านรัฐบาลในหลายเมืองทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 26 คน
กลุ่มผู้ประท้วงต่อต้านรัฐบาลซีเรียรวมตัวเดินขบวนประท้วงในหลายเมืองเมื่อวานนี้ รวมถึงกรุงดามาสกัส เมืองดารา เมืองบานีอัส และเมืองฮอมส์ ซึ่งแต่ละเมืองเป็นเมืองสำคัญเพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลปฏิรูปการเมืองและให้สิทธิเสรีภาพประชาชนในการแสดงความคิดเห็น แต่ถูกเจ้าหน้าที่หน่วยความมั่นคงกราดยิงเข้าใส่ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 26 คน
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เหตุประท้วงระหว่างกลุ่มซาลาฟิสท์และคอปติคส์ที่กรุงไคโร ประเทศอียิปต์ ก็ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 1 ราย และบาดเจ็บอีก 18 ราย โดยทั้ง 2 กลุ่มต้องการเข้ามามีส่วนร่วมทางการเมืองหลังจากที่ประธานาธิบดีฮอสนี มูบารัค ลงจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 11 ก.พ.
กลุ่มคอปติคส์ ซึ่งเป็นชนกลุ่มน้อยที่มีสัดส่วนประมาณ 10% ของประชากรทั้งหมดของอียิปต์