นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ผลการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนที่สนับสนุนพรรคเพื่อไทยมากกว่าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นเพราะประชาชนสิ้นหวังจากการบริหารงานของรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ไม่สามารถเป็นที่พึ่งให้ประชาชนได้ พรรคร่วมรัฐบาลก็มีพฤติการณ์ทุจริต กอบโกย จึงมองไม่เห็นทางออก
ส่วนพรรคที่เกิดใหม่ก็ขาดประสบการณ์ ประชาชนจึงอยากได้มืออาชีพที่มาบริหารงานได้ทันที ซึ่งพรรคเพื่อไทยก็เคยบริหารจนมีผลงานมาแล้ว
ผลโพลที่ออกมาคิดว่าเกิดขึ้นเพราะรัฐบาลบริหารราชการล้มเหลว จนเกิดกรณีของแพงค่าแรงถูก ซึ่งเมื่อพรรคเพื่อไทยประกาศนโยบายค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท จึงโดนใจประชาชน นอกจากนี้ ยาเสพติดระบาด อาชญากรรมพุ่ง เมื่อพรรคเพื่อไทยประกาศแก้ไขปัญหายาเสพติดใน 1 ปี ก็ได้เสียงตอบรับ
ประการต่อมา เศรษฐกิจแย่ แก้แบบเด็ก ทำให้ประชาชนไว้วางใจพรรคเพื่อไทยที่เคยบริหารงานสำเร็จมาแล้ว เหตุการณ์ภาคใต้ไม่สงบ ศพเพิ่มรายวัน พรรคเพื่อไทยก็ได้ประกาศนโยบายจัดตั้งเขตปกครองพิเศษให้มีการเลือกตั้ง จึงได้รับการตอบรับ
ที่สำคัญศัตรูขยาย ทำลายมิตร เรื่องนโยบายการต่างประเทศที่เพิ่มศัตรูรายวัน ขณะที่พรรคเพื่อไทยมีแต่สร้างมิตรทำงานร่วมกันราบรื่น และปากปรองดอง การกระทำปองร้าย ยังมีการไล่ล่าคนเสื้อแดง การกระทำ 2 มาตรฐาน
"พรรคเพื่อไทยประกาศว่าจะแก้ไข ไม่แก้แค้น เมื่อผลโพลออกมาเช่นนี้ ถ้าผลการเลือกตั้งออกมาว่าพรรคประชาธิปัตย์แพ้ ขอให้พรรคประชาธิปัตย์อย่าหน้าด้านตั้งรัฐบาลแข่ง ไม่เช่นนั้นอาจจะเจอม็อบกลุ่มพ่อค้า ประชาชน เพราะคนเหล่านี้ไม่เอารัฐบาลแล้ว
ส่วนกรณีที่นายอภิสิทธิ์ ประกาศว่าจะยุบสภาในวันที่ 9 พ.ค. และให้มีเลือกตั้งในวันที่ 3 ก.ค.นั้น ก็ขอชื่นชมว่าคนเป็นผู้นำต้องมีความชัดเจน แต่ที่น่าสังเกตคือเหตุใดไม่ประกาศกับผู้สื่อข่าวประเทศไทย แต่กลับไปให้สัมภาษณ์สำนักตางประเทศ