นายปานเทพ พัวพงศ์พันธ์ โฆษกกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย(พธม.) กล่าวว่า ข้อสรุปจากการหารือ 3 ฝ่าย ระหว่างไทย กัมพูชา และอินโดนีเซีย เกี่ยวกับปัญหาพิพาทบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา น่าจะเป็นเล่ห์เหลี่ยมของกัมพูชา โดยมีอินโดนีเซียเป็นผู้สมรู้ร่วมคิด หรือรู้ไม่เท่าทันฝ่ายกัมพูชา เพราะเป็นการบีบบังคับให้ไทยลงนามร่างทีโออาร์ก่อนที่ทหารกัมพูชาจะถอนกำลังออกจากพื้นที่ เนื่องจากร่างทีโออาร์ดังกล่าวจะมีผลผูกพันในการเปลี่ยนแปลงอาณาเขต ซึ่งต้องขออนุมัติจากคณะรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 190 ก่อน
ทั้งนี้ หลังจาก รมต.ต่างประเทศของทั้ง 3 ประเทศเข้าร่วมหารือกันแล้วมีข้อเสนอในการออกมาตรการร่วมกัน 6 ข้อ โดยให้มีการลงนามในร่างข้อตกลง(ทีโออาร์) เพื่อให้ทหารอินโดนีเซียเข้าสังเกตการณ์ในพื้นที่พิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมจัดประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป(จีบีซี) และประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม(เจบีซี) ไทย-กัมพูชาทันที โดยให้เชิญผู้สังเกตการณ์อินโดนีเซียเข้ามาในพื้นที่ปะทะ
โฆษกกลุ่มพันธมิตรฯ กล่าวว่า เมื่อมีประกาศยุบสภาแล้ว รัฐบาลไทยก็ไม่สามารถลงนามใดๆได้ ทั้งนี้ กลุ่มพันธมิตรฯ และคณะกรรมการป้องกันราชอาณาจักรไทยได้ตัดสินใจชุมนุมต่อไปจนกว่าผลการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกในเดือน มิ.ย.54 จะมีมติออกมา ซึ่งจะเป็นการรู้ผลก่อนที่ประชาชนจะไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ซึ่งจะเป็นเงื่อนไขในการตัดสินใจของประชาชนว่าสมควรลงทัณฑ์นักการเมืองด้วยการโหวตโนหรือไม่
สำหรับในวันพรุ่งนี้(12 พ.ค.) กลุ่มพันธมิตรฯ จะติดตั้งแผ่นป้ายโหวตโน โดยมีข้อความระบุว่า "อย่าปล่อยสัตว์เข้าสู่สภา เข้าคูหากาโหวตโน"ทั่วบริเวณเชิงสะพานมัฆวานรังสรรค์