นายสมศักดิ์ โกศัยสุข หัวหน้าพรรคการเมืองใหม่(กมม.) กล่าวว่า พรรคฯ จะส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งครั้งนี้แน่นอนทั้งแบบบัญชื่อรายชื่อ และแบบแบ่งเขต เพราะกระบวนการของพรรคได้ดำเนินการมาตลอด แม้ที่ผ่านมาจะมีปัญหาถูกแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยชี้นำไม่ให้ดำเนินกิจกรรมทางการเมือง ซึ่งขัดต่อเจตนารมณ์ของการตั้งพรรคการเมือง
"การตั้งพรรคการเมืองต้องมีเจตนาที่จะส่งผู้สมัครลงเลือกตั้ง และพรรคได้เตรียมการทำงานแต่ละภาคแต่ชุดไว้เรียบร้อยแล้ว" นายสมศักดิ์ กล่าว
หัวหน้าพรรค กมม.กล่าวว่า พรรคจะส่งผู้สมัครแบบแบ่งเขตที่ได้เสนอตัวเข้ามารวม 21 จังหวัด ประกอบด้วย ภาคเหนือ ได้แก่ ขอนแก่น นครราชสีมา อุดรธานี อุบลราชธานี สุรินทร์ บุรีรัมย์ ภาคเหนือ ได้แก่ เชียงราย เชียงใหม่ แพร่ พิษณุโลก นครสวรรค์ ภาคตะวันตก ได้แก่ เพชรบุรี กาญจนบุรี ราชบุรี ภาคใต้ ได้แก่ สุราษฎร์ธานี ภูเก็ต กระบี่ พังงา ภาคตะวันออก ได้แก่ ชลบุรี ตราด รวมทั้งกรุงเทพฯ และปริมณฑล ส่วน ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อนั้นจะเป็นหัวหน้าและกรรมการบริหารพรรคฯ ซึ่งจะเปิดตัวในวันเปิดรับสมัคร 19 พ.ค.นี้
หัวหน้าพรรค กมม.ยังปฏิเสธข่าวกรณีที่นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ ประกาศบนเวทีปราศรัยว่าได้มอบเงินบริจาคจำนวน 3 ล้านบาทให้กับพรรคฯ ซึ่งตนเองได้ตั้งคณะทำงานตรวจสอบแล้วไม่พบเงินจำนวนดังกล่าว
"หากได้มอบให้ใครบางคน ขอให้นายสนธิประกาศให้ทราบบนเวทีด้วย ซึ่งใส่ร้ายลักษณะนี้ทำให้พรรคเสียหายไม่ทราบว่าใครอมไปทำอะไร ผมต้องการทำให้เป้าหมายพรรคนี้ชัดเจนว่าไม่ได้อยู่ใต้อิทธิพลอำนาจมืดของใคร และไม่เป็นพรรคนอมินีของพันธมิตรฯ พอข่มขู่ไม่สำเร็จจะมาทวงคืนพรรคไม่ได้" นายสมศักดิ์ กล่าว
หัวหน้าพรรค กมม.กล่าวว่า ความแตกแยกที่เกิดขึ้นในพรรคมาจากปัจจัยภายนอกที่ต้องการกำหนดทิศทางของพรรคฯ ซึ่งทำไม่ได้เพราะพรรคต้องทำกฎหมาย ไม่อย่างนั้นหากถูกสั่งการได้ก็ไม่ใช่ระบอบประชาธิปไตย เช่น การรณรงค์ไม่ให้มีการเลือกตั้งหรือโหวตโน หากพรรคไปทำอย่างนั้นพรรคก็ผิดกฎหมาย ส่วนที่จะแนวร่วมกลุ่มพันธมิตรฯ มายื่นถอดถอนและขับไล่ก็ไม่วิตกกังวล หากต่อสู้ตามข้อเท็จจริงของกฎหมาย และการส่งผู้สมัครเป็นมติของพรรคที่เคยประชุมมาก่อนหน้านี้ซึ่งกรรมการบริหารพรรคส่วนใหญ่เห็นชอบ
หัวหน้าพรรค กมม.กล่าวว่า กำลังหาที่ทำการพรรคใหม่ เพราะที่ทำการเดิมในขณะนี้เสียค่าเช่าเดือนละ 2.8 แสนบาท ซึ่งที่ทำการพรรคไม่จำเป็นต้องกว้างขวางมาก
ส่วนท่าทีของนายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการพรรค และนายสำราญ รอดเพชร โฆษกพรรค ตอนนี้ยังอยู่กับพรรค แต่ในอนาคตไม่รู้ว่าทั้งสองคนจะตัดสินใจอย่างไร แต่การที่ทั้งสองคนออกมาบอกว่าจะไม่ส่งผู้สมัครเป็นการทำลายพรรค และนายสุริยะใสเองยังค้างเงินพรรคอีก 6 แสนกว่าบาท กรณีไปขายบัตรจัดงานระดมทุนเข้าพรรค แต่ยังไม่ได้เอาเงินเข้าพรรค ซึ่งตนเองได้รายงานให้ กกต.ทราบแล้ว
"นี่เป็นประเด็นปัญหาที่ไม่ยืนอยู่บนความถูกต้องมาตลอด จนแกนนำพันธมิตรฯ ออกมารณรงค์โหวตโนคืออะไร เพราะไม่ต้องการให้มีเลือกตั้ง หลังจากทหารบอกไม่มีปฏิวัติและจะมีเลือกตั้งแล้วจะไปประท้วงกันอีก มันคือระบบอะไร ซึ่งเราไม่เชื่อมั่นระบอบที่ไม่เป็นประชาธิปไตย" นายสมศักดิ์ กล่าว