กลายเป็นเรื่องงามหน้าประชาคมโลกไปเสียแล้วเมื่อ นายโดมินิก สเตราส์-คาห์น ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจนครนิวยอร์กควบคุมตัวลงมาจากเครื่องบินโดยสารของสายการบินแอร์ฟรานซ์ ในเวลาเพียงไม่กี่นาทีก่อนที่เครื่องบินจะออกเดินทางจากท่าอากาศยานนานาชาติจอห์น เอฟ. เคนเนดี้ ไปยังกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น (14 พ.ค.) หลังจากที่เขาถูกกล่าวหาว่าล่วงละเมิดทางเพศพนักงานทำความสะอาดหญิงของโรงแรมโซฟิเทล ย่านไทมส์ สแควร์ ในมหานครนิวยอร์ก
โดมินิก สเตราส์-คาห์น จากเจ้าหน้าที่ระดับสูงขององค์กรระดับโลกวัย 62 ปีที่มักปรากฏตัวในชุดสูทที่แสนองอาจ รับกับใบหน้าและท่าทางที่สง่าผ่าเผย ท่ามกลางการขนาบข้างของเจ้าหน้าที่ที่ให้การอารักขา มาวันนี้ชายผู้เป็นตัวเก็งในการแข่งขันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีฝรั่งเศส ปรากฏตัวผ่านสื่อในชุดเสื้อกันฝนสีดำทับเสื้อเชิ้ตสีฟ้า หน้าตาหม่นหมองไร้ราศี มีพัศดีคอยประกบอยู่ตลอดเวลา และใส่เครื่องประดับของผู้ต้องหาที่เรียกว่า "กุญแจมือ"
ที่กรุงวอชิงตัน สถานที่ตั้งของสำนักงานใหญ่ไอเอ็มเอฟ มีโฆษกหญิงของหน่วยงานออกมาแถลงว่า ไอเอ็มเอฟยังสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างเต็มกำลังความสามารถต่อไป และบอร์ดบริหารของไอเอ็มเอฟได้ประกาศแต่งตั้งนายจอห์น ลิปสกี รองผู้อำนวยการไอเอ็มเอฟให้รักษาการแทนนายสเตราส์-คาห์น เป็นการชั่วคราวแล้ว
โดมินิก สเตราส์-คาห์น…งานเข้า!
หลังจากที่เหน็ดเหนื่อยกับการช่วยเหลือหลายประเทศในยุโรปแก้วิกฤตหนี้สาธารณะ สเตราส์-คาห์น คงต้องปาดเหงื่อมากกว่าเดิมถึง 2 เท่าในการแก้วิกฤตชีวิตของเขาเอง เมื่องูไม่รักดีที่อยู่บนศีรษะเกิดพ่น "พิษ" สวาทใส่เจ้าตัวแบบเต็มๆ
เหตุอื้อฉาวครั้งนี้เกิดขึ้น ณ ห้องสวีทหมายเลข 2806 ของโรงแรมโซฟิเทล ในย่านไทม์สแควร์ ของนครนิวยอร์ก เมื่อพนักงานทำความสะอาดวัย 32 ปีได้เข้าไปทำความสะอาดในห้องพักดังกล่าว ก่อนที่จะพบกับนายสเตราส์-คาห์น ที่เดินออกมาจากห้องน้ำในชุด...นุ่งลมห่มฟ้า!
จากนั้นนายสเตราส์-คาห์นได้พยายามทำอนาจารเธอ แต่เธอต่อสู้ขัดขืนอย่างสุดกำลังจนกระทั่งหนีออกมาได้จึงรีบรายงานเรื่องนี้ให้เพื่อนพนักงานทราบและโทรแจ้งเหตุด่วนเหตุร้าย 911 ขณะที่แหล่งข่าวของตำรวจระบุว่า ผู้อำนวยการไอเอ็มเอฟได้หลบหนีออกจากห้องพักในสภาพเร่งรีบ จนกระทั่งลืมทั้งโทรศัพท์มือถือและของส่วนตัวบางอย่างเอาไว้ ซึ่งเป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวเขาได้ทันการณ์
หลังเกิดเหตุดังกล่าว นายสเตราส์-คาห์น ถูกควบคุมตัวขึ้นศาลเทศบาลเขตแมนฮัตตันด้วยข้อกล่าวหา 7 กระทงด้วยกัน ซึ่งรวมถึงการล่วงละเมิดทางเพศ กักขังหน่วงเหนี่ยว และพยายามข่มขืนกระทำชำเรา ขณะที่พนักงานแม่บ้านหญิงของโรงแรมผู้เสียหาย ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลด้วยอาการบาดเจ็บเล็กน้อย
อย่างไรก็ตาม สเตราส์-คาห์นได้ว่าจ้างทีมทนายชั้นนำจำนวนมากไว้สู้คดี และเมื่อวานนี้ (17 พ.ค.) เจ้าตัวได้ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ขณะที่ผู้พิพากษาไม่อนุญาตให้มีการประกันตัว แม้ทนายของเขาจะยื่นหลักทรัพย์ประกันตัวมูลค่าสูงถึง 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจยังกล่าวด้วยว่า นายสเตราส์-คาห์น ไม่มีเอกสิทธิที่จะได้รับการคุ้มครองทางการทูตในการละเว้นจากการถูกดำเนินคดี และหากศาลตัดสินว่าเขากระทำผิดจริง นายสเตราส์-คาห์นจะต้องโทษจำคุกนานถึง 74 ปี 3 เดือน
จากห้องสวีทสุดหรู...สู่ห้องขังในเรือนจำนรก
จากชีวิตที่คุ้นเคยอยู่กับห้องสวีทสุดหรูของโรมแรมห้าดาวราคาคืนละ 3,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 90,000 บาท) ที่เพิ่งเข้าพักเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (13 พ.ค.) มาวันนี้นายโดมินิก สเตราส์-คาห์น ต้องบอกลาที่นอนนุ่มๆ และบรรยากาศที่หรูหรามารับชะตากรรมที่เรือนจำไรเกอร์ส ไอส์แลนด์ สถานที่คุมขังนักโทษบนเนื้อที่ราว 1,040 ไร่ ท่ามกลางสภาพทั่วไปของเรือนจำที่เปรียบดั่ง "สุสานคนเป็น"
ไรเกอร์ส ไอส์แลนด์ เป็นเรือนจำกลางของนครนิวยอร์กที่ขึ้นชื่อเรื่องความโหด ความอึกทึก และอันตราย โดยเรือนจำแห่งนี้เป็นสถานที่ที่หลายคนรู้จักกันดีเพราะมักปรากฏในฉากในภาพยนตร์อาชญากรรมหลายเรื่อง และที่นี่คือที่พำนักของนายสเตราส์-คาห์นในระหว่างการควบคุมตัวเพื่อรอพิจารณาคดี ซึ่งจะมีขึ้นอีกครั้งในวันศุกร์ที่ 20 พฤษภาคม
โฆษกกรมราชทัณฑ์นครนิวยอร์กกล่าวว่า "นายสเตราส์-คาห์น จะอยู่ในห้องขังเดี่ยว ท่ามกลางการเฝ้าดูของเจ้าหน้าที่ตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อปกป้องเขาจากการถูกทำร้ายโดยนักโทษคนอื่นๆ อย่างไรก็ตาม เขาจะไม่ถูกกักขังอยู่แต่ในห้องขังตลอดเวลา แต่เมื่อใดก็ตามที่เขาออกมานอกห้องขังจะต้องมีพัศดีคอยดูแลเพื่อป้องกันการหลบหนีที่อาจเกิดขึ้นได้
โดมินิก สเตราส์-คาห์น…นักล่อลวงหญิงตัวยง
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่นายสเตราส์-คาห์น ผู้ซึ่งได้รับฉายาจากสื่อมวลชนฝรั่งเศสมานานแล้วว่าเป็น "นักล่อลวงหญิงตัวยง" ได้แสดงพฤติกรรมอื้อฉาว ทว่าเคยมีหญิงสาวผู้เสียหายถูกกระทำในลักษณะเช่นนี้มาแล้วหลายครั้งหลายหน
นางสาวทริสแตง บานอง ผู้สื่อข่าวและนักเขียนชาวฝรั่งเศสวัย 31 ปี ผู้เคยกล่าวหาว่าถูกนายสเตราส์-คาห์น พยายามล่วงละเมิดทางเพศขณะเข้าสัมภาษณ์เป็นการส่วนตัวเมื่อปี 2545 นั้น เฝ้ารอโอกาสที่จะเอาผิดกับนายโดมินิก สเตราส์-คาห์น มาเนิ่นนานถึง 9 ปี และแล้ววันของเธอก็มาถึง
นักข่าวสาวผู้นี้เคยออกมากล่าวหานายโดมินิก สเตราส์-คาห์น เมื่อปี 2550 ผ่านทางสถานีโทรทัศน์ปารีสเปรมิแยร์ พร้อมให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์ข่าวแห่งหนึ่ง เธอได้เล่าถึงเหตุการณ์ที่นายสเตราส์-คาห์น ล่อลวงให้ไปพบที่อพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่ง โดยหลอกว่าจะให้สัมภาษณ์ ก่อนที่จะทำการล่วงละเมิดทางเพศ
บานองรื้อฟื้นถึงเหตุการณ์ในครั้งนั้นให้ฟังว่า เธอต้องวางเครื่องบันทึกเสียงลงทันที หลังจากที่นายสเตราส์-คาห์นเอ่ยคำพูดบัดสีออกมาว่า "ผมไม่อาจตอบคำถามได้ ถ้าไม่ได้จับมือคุณ" กระทั่งการสัมภาษณ์จบลงอย่างเลวร้ายเมื่อเธอถูกลวนลามทางเพศ ก่อนที่เธอจะดิ้นรนต่อสู้และสามารถหนีรอดมาได้
อย่างไรก็ตาม บานองไม่ได้เดินเรื่องฟ้องร้องสเตราส์-คาห์น อย่างเป็นทางการในครั้งนั้น แม้ว่าใจจริงเธอต้องการที่จะดำเนินคดี แต่ท้ายที่สุดแล้วเธอได้ล้มเลิกความตั้งใจดังกล่าวไปเพราะแม่ของเธอขอร้องไว้เนื่องจากกังวลต่ออาชีพของบานองเอง ในขณะที่ตัวเธอก็ไม่อยากใช้ชีวิตที่เหลือในฐานะผู้หญิงที่มีปัญหากับนักการเมืองด้วยเช่นกัน
นอกจากนี้ เมื่อปี 2551 ผู้อำนวยการไอเอ็มเอฟรายนี้ยังเคยถูกจับได้ว่ามีความสัมพันธ์กับเจ้าหน้าที่หญิงชาวฮังการีของไอเอ็มเอฟจนกระทั่งมีการสอบสวนในเรื่องนี้และผลออกมาว่าเป็นการสมยอมด้วยกันทั้งสองฝ่าย ก่อนที่เขาจะออกมากล่าวขอโทษถึงเรื่องนี้ในเวลาต่อมาและถูกจับตามองมาโดยตลอดเรื่องพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม
ด้านนางแอน ซินแคลร์ ภรรยาของนายโดมินิก สเตราส์-คาห์น ได้ออกมาปกป้องสามี โดยบอกว่าเธอไม่เชื่อข้อกล่าวหา และยืนยันว่า ความจริงจะปรากฏว่าสามีของเธอเป็นผู้บริสุทธิ์
เกมพิศวาส หรือแผนลอบสังหารทางการเมือง
ดูเหมือนว่ากรณีการจับกุมตัวนายสเตราส์-คาห์น จะไม่ใช่เป็นเพียงเรื่องฉาวคาวโลกีย์เท่านั้น เมื่อผู้คนในแวดวงการเมืองมองว่า เหตุการณ์นี้อาจมีแผนการที่ล้ำลึกแบบที่นึกไม่ถึงซ่อนอยู่ และนี่อาจเป็นแผนกำจัดมิให้สเตราส์-คาห์นลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีฝรั่งเศสในปี 2555 ก็เป็นได้
นางคริสตีน บูติน หัวหน้าพรรคประชาธิปไตยคริสเตียนหรือพีดีพีของฝรั่งเศส เชื่อว่าเหตุการณ์นี้เป็นกับดักสำหรับจัดการนายสเตราส์-คาห์น ส่วนนางมิเชลล์ ซับบาน สมาชิกสภาเทศบาลกรุงปารีสของฝรั่งเศสชี้ว่านี่เป็นการสมคบคิดข้ามชาติ และเป็นการลอบสังหารทางการเมืองในรูปแบบใหม่
ขณะเดียวกันนายโยชิฮิโกะ ดาโนะ รัฐมนตรีคลังของญี่ปุ่น กล่าวหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้ว่าตนรู้สึกตกใจกับข่าวการจับกุมตัวนายโดมินิก สเตราส์-คาห์น เนื่องจากกรณีอื้อฉาวของบอสใหญ่ไอเอ็มเอฟ เกิดขึ้นในช่วงที่ปัญหาหนี้สาธารณะของยุโรปกำลังเผชิญภาวะวิกฤติพอดิบพอดี
อย่างไรก็ตาม สื่อมวลชนแดนน้ำหอมเชื่อว่าอนาคตของนายสเตราส์-คาห์น ซึ่งเข้าดำรงตำแหน่งสูงสุดของไอเอ็มเอฟเมื่อปี 2550 และได้รับคำชื่นชมอย่างมากจากผลงานอันโดดเด่นในการกอบกู้เศรษฐกิจโลกช่วงวิกฤติปี 2550-2552 นั้น จะดับวูบลงเพียงชั่วข้ามคืนหลังเรื่องอื้อฉาวครั้งนี้ แม้คดีจะยังไม่ถูกตัดสินอย่างเป็นทางการ
ด้านนักการเมืองและผู้สังเกตการณ์ทางการเมืองบางรายในฝรั่งเศสบอกว่า โอกาสชิงตำแหน่งประธานาธิบดีของเขาหมดสิ้นลงแล้ว และน้อยคนนักที่จะคิดว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้เป็นเรื่องของการจัดฉาก
ที่ผ่านมา...นายโดมินิก สเตราส์-คาห์น นักการเมืองผมสีดอกเลาซึ่งก้าวขึ้นมารับตำแหน่งผู้อำนวยการไอเอ็มเอฟเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2550 โดยมุ่งดำเนินนโยบายผลักดันให้เกิดการปฏิรูปภายในสถาบันการเงินระหว่างประเทศนั้น ถูกจับตามองในฐานะผู้นำองค์กรซึ่งทำหน้าที่ช่วยเหลือประเทศต่างๆ ให้รอดพ้นจากวิกฤติเศรษฐกิจเมื่อปี 2551 มาได้อย่างน่าชื่นชม
ปัจจุบัน...นายโดมินิก สเตราส์-คาห์น ยังคงเป็นที่จับตาของประชาคมโลกสำหรับคดีฉาวสะท้านโลกครั้งนี้ ที่ยังไม่มีผู้ใดรู้ว่า เขาจะสามารถเอาตัวรอดจากวิกฤตฉาวคาวโลกีย์ครั้งนี้ไปได้หรือไม่?