นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวว่า การที่พรรคเพื่อไทยเตรียมส่งแกนนำแนวร่วมประชาชนต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือกลุ่มคนเสื้อแดง เป็นผู้สมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อของพรรค โดยให้อยู่ในลำดับที่ปลอดภัยในการได้รับเลือกเป็น ส.ส.ก็เพื่อหวังให้สามารถใช้เอกสิทธิ์คุ้มครอง ไม่ต้องถูกควบคุมตัวในกรณีที่กระทำความผิด แสดงให้เห็นว่าการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดง และพรรคเพื่อไทยไม่ได้แยกจากกันตามที่เคยกล่าวอ้างไว้เลย โดยสมรู้ในพฤติกรรมที่ผ่านมาของคนกลุ่มนี้ด้วย
ที่สำคัญยังปรากฎความเป็นจริงในเรื่องอภิสิทธิ์ชนในกลุ่มคนเสื้อแดงเอง ที่เฉพาะแกนนำเท่านั้นที่ได้สิทธิ์ในการที่จะเป็น ส.ส. ในขณะที่แนวร่วมกลับไม่มีโอกาสได้รับสิทธิ์คุ้มครองดังกล่าว หากถูกจับกุมก็จะไม่ได้รับการช่วยเหลือ แต่กลับมีความพยายามในการส่งนายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง ที่อยู่ระหว่างการหลบหนีคดีอยู่ในต่างประเทศลงสมัครด้วย ทั้งที่นายอริสมันต์ถือเป็นแกนนำคนเสื้อแดงที่มักพูดในลักษณะให้ก่อเหตุรุนแรงมากที่สุด
นายปานเทพ กล่าวว่า เรื่องนี้ยังสะท้อนให้เห็นว่าการเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย และกลุ่มคนเสื้อแดงนั้นเป็นขบวนการเดียวกัน ทั้งพฤติกรรมที่หมิ่นสถาบันและการก่อความรุนแรงต่างๆ
ดังนั้น หากพรรคเพื่อไทยได้เข้ามาบริหารประเทศสถานการณ์ความรุนแรงก็ยังจะไม่สิ้นสุด แล้วยังจะมีแนวโน้มที่จะทำลายหลักนิติรัฐ โดยการนิรโทษกรรมและ พ.ต.ท.ทักษิณ และบุคคลบางกลุ่ม
ในทางกลับกันประชาชนก็รับไม่ได้อีกเช่นกันหากพรรคประชาธิปัตย์ได้กลับมาเป็นรัฐบาล เพราะไม่สามารถทนได้กับปัญหาข้าวยากหมากแพง การทุจริตคอร์รัปชั่น และที่สำคัญปัญหาการถูกละเมิดอธิปไตยของชาติ การเมืองทั้ง 2 ขั้วใหญ่นี้จึงยังเป็นปัญหา และไม่ใช่คำตอบของชาติ ในขณะที่การเมืองขั้วที่ 3 ก็เป็นได้เพียงเสียงส่วนน้อย