ผู้นำญี่ปุ่น จีน และเกาหลีใต้ เห็นพ้องต้องกันเกี่ยวกับแผนงานต่างๆในการยกระดับความปลอดภัยนิวเคลียร์และการรับมือภัยพิบัติ ขณะที่ประชาคมโลกเฝ้ารอการแก้ปัญหาวิกฤตนิวเคลียร์ที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกุชิม่า ไดอิจิ
นายกรัฐมนตรีนาโอโตะ คัง ของญี่ปุ่น, นายกรัฐมนตรีเหวิน เจียเป่า ของจีน และประธานาธิบดีลี มยอง บัค ของเกาหลีใต้ ยืนยันว่าการร่วมมือกันระหว่างสามประเทศเป็นสิ่งจำเป็นในการช่วยให้ญี่ปุ่นฟื้นตัวจากแผ่นดินไหวและสึนามิอย่างรวดเร็ว
เพื่อป้องกันไม่ให้วิกฤตนิวเคลียร์ในลักษณะนี้เกิดขึ้นอีก ทั้งสามประเทศให้คำมั่นว่าจะร่วมกันสร้างกรอบการทำงานที่ครอบคลุม เพื่อให้ผู้เชี่ยวชาญของทั้งสามประเทศสามารถทำงานได้อย่างใกล้ชิดกันมากขึ้น และเข้าถึงข้อมูลที่เป็นประโยชน์ของกันและกันได้
ผู้นำทั้งสามตระหนักว่าพลังงานนิวเคลียร์ยังเป็นทางเลือกที่สำคัญสำหรับหลายประเทศ แต่ก็เห็นพ้องต้องกันในการสร้างแผนงานร่วมกันว่าด้วยเรื่องพลังงานทดแทนและการอนุรักษ์พลังงาน เพื่อไม่ให้เกิดการพึ่งพิงพลังงานนิวเคลียร์มากเกินไป
นอกจากนั้นทั้งสามประเทศยังกำหนดหลักการสร้างความร่วมมือระหว่างกันในกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉินต่างๆ หลังจากที่เห็นว่าญี่ปุ่นต้องรับความช่วยเหลือมากมายจากนานาประเทศเมื่อเกิดภัยพิบัติ
โดยในด้านการป้องกันภัยพิบัติ ทั้งสามประเทศตัดสินใจว่าจะมองหาความเป็นไปได้ในการตั้งหน่วยกู้ภัยร่วมกันและสร้างระบบแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกัน ส่วนในด้านเศรษฐกิจ ทั้งสามตระหนักว่ายังมีหลายสิ่งที่ต้องทำเพื่อเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยว รวมถึงจำนวนสินค้า บริการ และเงินทุน
ขณะเดียวกันผู้นำทั้งสามประเทศเห็นพ้องต้องกันว่าควรมีการบรรลุสนธิสัญญาการลงทุนระดับไตรภาคีก่อนเวลาที่กำหนดไว้ และต้องเร่งเตรียมข้อตกลงการค้าเสรีระหว่างกันด้วย
นอกจากนั้นผู้นำทั้งสามยังแสดงความวิตกเรื่องการเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียมของเกาหลีเหนือ และเน้นย้ำถึงความสำคัญของการเจรจาอย่างสร้างสรรค์ระหว่างเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้
ทั้งนี้ การประชุมสุดยอดโตเกียวเป็นการประชุมครั้งที่ 4 นับตั้งแต่ปี 2551 ซึ่งญี่ปุ่น จีน และเกาหลีใต้ ตกลงว่าจะผลัดกันเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมไตรภาคีทุกปี เพื่อกระชับความร่วมมือและสร้างความไว้วางใจระหว่างทั้งสามประเทศ สำนักข่าวเกียวโดรายงาน