นายประพันธ์ คูณมี โฆษกคณะกรรมการป้องกันราชอาณาจักรไทย ระบุว่า การรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งของพรรคเพื่อไทยในครั้งนี้เป็นการระดมสรรพกำลังอย่างเต็มที่เพื่อหวังได้รับชัยชนะในการเลือกตั้ง ซึ่งจากข้อมูลที่เครือข่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยในพื้นที่ต่างๆ ได้ให้ข้อมูลตรงกันว่า หัวคะแนนของพรรคเพื่อไทยมีการทำงานที่เข้มแข็งมาก ทำให้กระแสของพรรคเพื่อไทยในต่างจังหวัดสอดคล้องกับผลการสำรวจของโพลล์ต่างๆ ที่ระบุว่าพรรคเพื่อไทยมีคะแนนนิยมนำ โดยที่พรรคประชาธิปัตย์สู้ไม่ได้
นายประพันธ์ ยังเรียกร้องให้ทุกคนเคารพในการรณรงค์โหวตโนของภาคประชาชน เพราะเป็นไปตามสิทธิในระบอบประชาธิปไตยและบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญ ซึ่งไม่ขัดต่อกฎหมายเลือกตั้ง โดยที่ผ่านมายังมีผู้สนับสนุนของพรรคประชาธิปัตย์บางกลุ่มที่ไม่เข้าใจในสิทธิเสรีภาพการแสดงออกของผู้รณรงค์โหวตโน จึงเกิดการเข้าขัดขวาง แม้ยังไม่มีเหตุปะทะที่รุนแรง แต่ก็สะท้อนให้เห็นว่าพรรคประชาธิปัตย์ยังไม่มีการทำความเข้าใจ และในผู้สนับสนุนของตัวเองเคารพในสิทธิของผู้อื่น
หลายครั้งที่อาสาสมัครที่ไปรณรงค์โหวตโน มักถูกกลุ่มผู้สนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ต่อต้านขัดขวาง ส่วนผู้สนับสนุนพรรคเพื่อไทยก็มีบ้าง จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในพื้นที่เขตหลักสี่ และดอนเมือง" นายประพันธ์ กล่าว
พร้อมมองว่า ผลแพ้ชนะในการเลือกตั้งครั้งนี้ไม่สามารถชี้อนาคตของประเทศได้ไม่ว่าใครจะมาเป็นรัฐบาล ภาคประชาชนก็ต้องออกมาต่อสู้อยู่ดี แต่หากประชาชนร่วมลงคะแนนโหวตโนมากๆ ก็จะทำให้ประชาชนมีอำนาจในการต่อรองกับฝ่ายการเมืองมากขึ้น มากกว่าการที่ไปสนับสนุนพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง ดังนั้นจึงไม่ต้องกังวลว่าโหวตโนไปแล้วจะสูญเปล่า
นายประพันธ์ กล่าวว่า หากพรรคเพื่อไทยได้รับชัยชนะ จะยิ่งทำให้ภาคประชาชนมีความเข้มแข็งในการร่วมกันตรวจสอบการทำงาน และทำให้พรรคเพื่อไทยไม่สามารถทำสิ่งใดที่นอกลู่นอกทางได้ เพราะถูกจับตามองและตรวจสอบอย่างหนัก แต่หากพรรคประชาธิปัตย์ชนะในการเลือกตั้งก็จะมีรัฐบาลที่ไม่สนใจเสียงของประชาชน เพราะสามารถอ้างได้ว่าสิ่งเลวร้ายที่ทำมาตลอด 2 ปีกว่าที่เป็นรัฐบาลนั้น ประชาชนไม่ถือสา และไม่มีการลงโทษ จึงมีโอกาสที่จะเกิดขึ้นอีก
ส่วนเหตุการณ์ที่มีขบวนการไปก่อกวนการหาเสียงของพรรคการเมืองต่างๆ นั้น โฆษกคณะกรรมการฯ กล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งนี้จะมีความรุนแรง โดยเฉพาะการใช้อิทธิพลทั้งข้าราชการและนอกราชการ มีการมุ่งปองร้ายทั้งหัวคะแนนและตัวผู้สมัคร โดยระยะใกล้ๆเลือกตั้งจะมีความรุนแรงมากขึ้น จึงยังมองไม่เห็นว่าการเลือกตั้งจะมีความเรียบร้อยได้อย่างไร
ส่วนกรณีมวลชนที่เข้าขัดขวางการหาเสียง ก็เพราะผลงานที่ผ่านมาทำให้ประชาชนไม่พอใจ และไม่ต้องการให้กลับมาเป็นรัฐบาลอีก ซึ่งเป็นปัญหาของ 2 ขั้วการเมืองใหญ่ที่ช่วงชิงการเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ทั้งนี้ พันธมิตรฯไม่มีแนวทางดังกล่าว และไม่นิยมการใช้ความรุนแรง มีเพียงการรณรงค์ตามกรอบของกฎหมายเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวรายงาน ในวันที่ 25 พ.ค.นี้ ที่บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ จะมีการจัดกิจกรรมเนื่องในโอกาสครบรอบ 3 ปี การชุมนุม 193 วัน โดยจะมีกิจกรรมทางวิชาการและการแสดงต่างๆ ตลอดทั้งวัน