นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ระบุการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นไม่เป็นอุปสรรคต่อการทำงานของรัฐบาลในการแก้ปัญหาพิพาทบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ไม่ว่าจะเป็น การดูแลเหตุปะทะบริเวณชายแดน การประชุมคณะกรรมการมรดกโลก หรือการต่อสู้คดีปราสาทพระวิหารในศาลอาญาระหว่างประเทศ แม้จะเป็นช่วงรัฐบาลรักษาการ
"เรื่องมรดกโลกอย่างน้อยที่สุดการประชุมน่าจะเสร็จสิ้นก่อนการเลือกตั้ง ส่วนปีหน้าเรายังยืนยันว่าจะเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดประชุม(คณะกรรมการมรดกโลก) ส่วนคดีที่ศาลโลกก็คงจะมีการตัดสินเกี่ยวกับมาตรการชั่วคราวช่วงใกล้ๆ กับการเลือกตั้ง แต่น่าจะเสร็จก่อนที่จะมีรัฐบาลชุดใหม่เข้ามา" นายอภิสิทธิ์ กล่าว
โดยวันนี้ นายกรัฐมนตรีได้เรียกประชุมผู้ที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ นายสุวิทย์ คุณกิตติ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าคณะเจรจาปัญหาพิพาทไทย-กัมพูชา, พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม เป็นต้น เพื่อร่วมกันพิจารณาแนวทางการแก้ไขปัญหาที่เป็นเอกภาพ ซึ่งมั่นใจว่าจะสามารถปกป้องอธิปไตยและไม่ทำให้สูญเสียดินแดน
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ก่อนที่คณะผู้สังเกตุการณ์จากประเทศอินโดนีเซียจะเข้ามาในพื้นที่พิพาท 1-2 วัน ทางอินโดนีเซียจะส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปสำรวจล่วงหน้า 6-7 จุด ใน จ.สรีสะเกษ แต่ต้องไม่ใส่เครื่องแบบตำรวจหรือทหาร หลังจากนั้นจะมีการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป(จีบีซี) ไทย-กัมพูชา ที่กรุงพนมเปญ หรือสถานที่อื่นๆ ที่ทางกัมพูชาจะเป็นผู้กำหนด ซึ่งไทยจะยืนยันให้มีการถอนกำลังทหารออกจากพื้นที่ก่อนที่คณะผู้สังเกตุการณ์จะเข้าไป
ทั้งนี้ นายสุวิทย์จะเดินทางไปประเทศฝรั่งเศส เพื่อหารือนอกรอบร่วมกับตัวแทนประเทศกัมพูชาก่อนที่จะมีการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกในวันที่ 25 พ.ค.นี้ และในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกจะเสนอให้ถอนเรื่องการพิจารณาแผนบริหารจัดการพื้นที่พิพาทออกจากการประชุมดังกล่าว
ส่วนการต่อสู้คดีในศาลโลกนั้นก็มีความคืบหน้าทั้งในเรื่องทีมกฎหมายและประเด็นต่อสู้ที่ไทยไม่เห็นด้วยกับมาตรการชั่วคราวที่กัมพูชาเสนอต่อศาลโลก แต่คงไม่สามารถเปิดเผยในรายละเอียดได้
นายกรัฐมนตรี ยอมรับว่า ข้อสรุปที่ได้ถือเป็นแนวทางที่ดีที่สุด แต่ยังไม่ได้เตรียมแผนสำรองไว้หากมีความผิดพลาดเกิดขึ้น เพราะมั่นใจว่าแนวทางที่ได้จะสามารถแก้ไขปัญหาต่างๆ ได้