นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวถึงกรณีที่การเจรจาทวิภาคีเพื่อให้เลื่อนวาระแผนบริหารจัดการมรดกโลกปราสาทพระวิหารยังไม่คืบหน้าว่า จากถ้อยแถลงของผู้อำนวยการยูเนสโกที่เสนอให้ไทยและกัมพูชาเจรจากันอีกครั้งก่อนการประชุมมรดกโลก ครั้งที่ 35 ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ระหว่างวันที่ 19-29 มิ.ย.นั้น สะท้อนให้เห็นว่าสิ่งที่นายกรัฐมนตรีเคยระบุว่าผู้อำนวยการยูเนสโกมีความเห็นพ้องกับข้อเสนอของไทยที่ให้เลื่อนวาระการประชุมนั้นไม่เป็นความจริง
นายปานเทพ กล่าวว่า เมื่อลงรายละเอียดในข้อเสนอของยูเนสโกจะเห็นว่ามีความสนใจในเรื่องการคุ้มครองซากปราสาทพระวิหารมากกว่าที่จะสนใจวิถีทางการสร้างสันติภาพ หรือในประเด็นที่ฝ่ายกัมพูชาใช้พื้นที่ปราสาทพระวิหารซึ่งเป็นมรดกโลกในการสั่งสมอาวุธและกำลังทหารเป็นฐานทัพในการทำร้ายราษฎรไทย
"ยูเนสโกสนใจเพียงสิ่งไม่มีชีวิตมากกว่าจะคำนึงถึงชีวิตราษฎรไทย ดังนั้นฝ่ายไทยต้องประนาม และไม่ยอมรับข้อเสนอของยูเนสโกที่มีจุดประสงค์ในการร่วมกันละเมิดอธิปไตยของไทย" นายปานเทพ กล่าว
โฆษกพันธมิตรฯ กล่าวว่า จากท่าทีที่ยังไม่มีข้อยุติจากการประชุมในเวทีมรดกโลกเป็นสาเหตุที่สมควรอย่างยิ่งที่ไทยจะต้องถอนตัวออกจากภาคีอนุสัญามรดกโลก เนื่องจากทั้งกัมพูชาและยูเนสโกไม่มีความจริงใจ มีเพียงการหารือถึงแนวทางที่ไม่เคารพต่ออธิปไตยของชาติไทยด้วยพฤติกรรมที่เลือกข้าง ทำให้เกิดความขัดแย้งอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ซึ่งเหตุผลนี้เพียงพอที่ไทยจะถอนตัวออกจากภาคีมรดกโลกอย่างชอบธรรม
ส่วนกรณีที่ผลสำรวจความนิยมของพรรคการเมืองออกมาระบุว่า พรรคเพื่อไทยยังมีคะแนนนำพรรคประชาธิปัตย์นั้น นายปานเทพ กล่าวว่า ผลสำรวจต่างๆ ที่ออกมาชี้ให้เห็นว่าหากประชาชนตัดสินใจเลือกฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ประเทศก็ยังจะไม่สงบ เพราะพรรคเพื่อไทยก็แสดงความชัดเจนที่จะทำลายระบบนิติรัฐ โดยการออกกฎหมายนิรโทษกรรมให้แก่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งจะก่อให้เกิดความขัดแย้งระหว่างคนไทยด้วยกันอีกครั้งอย่างแน่นอน
ในทางกลับกันหากประชาชนเลือกพรรคประชาธิปัตย์ที่ไม่มีหนทางในการเอาชนะพรรคเพื่อไทย แล้วไปจับมือกับพรรคการเมืองอื่นเพื่อจัดตั้งรัฐบาล ประเทศก็จะไม่สงบเช่นกัน เพราะจะทำให้คนเสื้อแดงกลับมาชุมนุมอีกครั้ง
"ไม่ว่าข้างใดข้างหนึ่งเข้ามาเป็นรัฐบาล ประเทศก็ยังไม่สงบ ดังนั้นหนทางเดียวที่จะนำไปสู่ความสงบ ก็คือ ประชาชนต้องแสดงพลังร่วมกันด้วยการโหวตโนที่จะเป็นการประท้วงด้วยสันติวิธี และไม่ยอมจำนนต่อระบบรัฐสภา หลังจากนั้นก็จะเป็นหนทางนำไปสู่เวทีปฏิรูปการเมือง และประเทศในท้ายที่สุด" นายปานเทพ กล่าว
นายประพันธ์ คูณมี โฆษกคณะกรรมการป้องกันราชอาณาจักรไทย กล่าวว่า ภาคประชาชนมีข้อเรียกร้องเพื่อเป็นทางออกในการปัญหา ทั้งการใช้กำลังทหารผลักดันให้ทหารและชุมชนกัมพูชาออกจากแผ่นดิน และการถอนตัวออกจากภาคีอนุสัญญามรดกโลก เพราะเชื่อว่าหากฝ่ายไทยทำใน 2 สิ่งนี้แล้ว อำนาจการต่อรองจะตกอยู่กับฝ่ายไทย เมื่อกัมพูชาและยูเนสโกต้องการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารให้สำเร็จ ก็จำเป็นต้องต้องมาขอความร่วมมือจากไทยและเจรจาให้ได้ข้อยุติก่อนเข้าสู่ขั้นตอนคณะกรรมการมรดกโลกอีกครั้ง
พร้อมระบุว่าการถอนตัวจากภาคีมรดกโลกถือเป็นหนทางที่ควรทำตามที่ภาคประชาชนเสนอไว้ จึงเชื่อว่าขณะนี้ทั้งนายสุวิทย์ คุณกิตติ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าคณะเจรจามรดกโลกฝ่ายไทย และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี หวังหยิบมาใช้ในช่วงก่อนการหรือระหว่างการประชุมมรดกโลก ที่ฝรั่งเศส ซึ่งจะเป็นช่วงโค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง เพื่อหวังให้ได้คะแนนเสียงจากประชาชน ในฐานะที่ได้แก้ไขปัญหาการสูญเสียดินแดนอธิปไตยของชาติ แต่ก็ขึ้นอยู่ว่าใครจะตัดสินใจทำก่อน