นายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา(ชทพ.) ระบุหากทั้งสองพรรคการเมืองใหญ่ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลก็มีความเป็นไปได้ที่ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ประธานที่ปรึกษาพรรคฯ จะได้เป็นนายกรัฐมนตรี เนื่องจากเป็นคนกลางที่สนับสนุนแนวทางสร้างความปรองดองในชาติ
"หากสองพรรคใหญ่ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ ต้องหาคนกลางที่ปรองดองมา โอกาสก็เป็นไปได้ แต่จะเป็นไปได้หรือไม่ต้องรอดูวันที่ 3 กรกฎาคมนี้ก่อนว่าคะแนนจะได้เท่าไหร่" นายบรรหาร กล่าวถึงกระแสข่าวพรรคขนาดกลางรวบรวมเสียงได้เกิน 100 เสียง เพื่อสนับสนุน พล.ต.สนั่น เป็นนายกรัฐมนตรี
ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค ชทพ. กล่าวว่า ขออย่าให้คะแนนเสียงเกิดความผกผันเหมือนการเลือกตั้งปี 50 ที่คาดคะเนผิดทุกพรรค และคาดว่า พรรคขนาดกลางที่จะได้ 20 เสียงขึ้นไปอาจมีแค่ 3 พรรค คือ พรรคภูมิใจไทย(ภท.) พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน(ชพผ.) และ ชทพ. แต่ไม่ได้ไปดูถูกพรรคการเมืองอื่น
ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค ชทพ. กล่าวว่า เป็นเรื่องถูกต้องแล้วที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี และเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) ออกมาขอโทษ พล.ต.สนั่น ที่กล่าวข้อความเหยียบหยาม เพราะความจริงแล้วตนเองก็ไม่ได้รังเกียจพรรคประชาธิปัตย์ แต่เคยสัญญาอะไรไว้ก็ควรรักษาสัญญาด้วย จะมากล่าวหาว่า ชทพ.ไปเข้ากับพรรคเพื่อไทย(พท.) ไม่ได้ แต่ถ้าได้เสียงข้างมากเราก็ยินดีให้การสนับสนุนไม่ว่าใคร
"เขาทำแต่ทำไม่หมด ความจริงพรรคประชาธิปัตย์ติดปัญหาภายในพรรค จะทำอะไรต้องหารือในกรรมการบริหารพรรค หากในพรรคไม่เห็นด้วยก็ลำบาก หากรับปากไปแล้วกรรมการบริหารพรรคไม่เห็นด้วยก็ลำบาก ก็ต้องเห็นใจ" นายบรรหาร กล่าว
ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค ชทพ. กล่าวว่า หากพรรค ปชป.ได้เสียงข้างมากก็พร้อมสนับสนุนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค ปชป.เป็นนายกรัฐมนตรี แต่ถ้านายอภิสิทธิ์ไม่เป็นจะให้นายสุเทพเป็นนายกรัฐมนตรีแทน ตนเองก็สนับสนุนเต็มที่
"ความจริงผมก็ไม่อยากทวงถึงนายอภิสิทธิ์ แต่เรียนตรงๆ ในพรรคประชาธิปัตย์ต้องชมคนที่พูดรู้เรื่องและประสานงานพรรคร่วมรัฐบาลได้มีนายสุเทพเพียงคนเดียว เอาอย่างไรก็เอาด้วยกัน แต่ระยะนี้ท่านห่างไปตั้งแต่ยุบสภาไม่เคยโทรศัพท์หากันเลย อาจจะลืมพรรคชาติไทยพัฒนาก็ได้" นายบรรหาร กล่าว
ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค ชทพ. กล่าวว่า หลังรู้ผลเลือกตั้งต้องให้โอกาสพรรคที่ได้เสียงข้างมากจัดตั้งรัฐบาลก่อน แต่อยู่ที่ว่าจะรวบรวมเสียงได้หรือเปล่า เสียงพอหรือไม่ แต่ถ้าได้พรรคใหญ่ได้เสียงเกินกึ่งหนึ่งก็หมดปัญหาสามารถตั้งรัฐบาลได้ และพรรคใหญ่จะได้ 400 เสียงอย่างที่นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ แกนนำพรรค ชพผ.ระบุก็มีโอกาสถึงหรือไม่ถึงก็ได้ หรืออาจจะเกินก็ได้
ส่วนกรณีที่นายสุเทพระบุว่าพรรค ชทพ.อย่าไปเป็นใบเฟิร์นให้กับพรรค พท.นั้น นายบรรหาร กล่าวว่า มันต้องมีทั้งบวกและลบ เอาเป็นว่าอนาคตใครจะจัดตั้งรัฐบาลยังบอกไม่ได้ ต้องรอวันที่ 3 ก.ค.ก่อน ความจริงคราวที่แล้วก็บอกว่าอย่าเอาพรรค ชทพ.ไปเป็นใบเฟิร์น คราวนี้หากส่งผู้สมัคร 170 คน แล้วได้ 140 คน ก็จะได้เป็นกุหลาบในแจกัน สวยงาม และหอมด้วย