นายสมชาย หอมลออ ประธานอนุกรรมการตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (คอป.) กล่าวว่า ความปรองดองไม่ควรตั้งอยู่บนพื้นฐานการประณีประนอมที่ขาดหลักการ ซึ่งที่ผ่านมายังไม่มีพรรคการเมืองใดเสนอนโยบายที่เป็นรูปธรรมที่จะพอเชื่อถือได้ว่าจะนำไปสู่ความปรองดองอย่างมีหลักการ แม้ว่าทุกพรรคจะพูดเรื่องความปรองดอง แต่กลับเสนอนโยบายประชานิยมเป็นส่วนใหญ่ ทำให้ประชาชนไม่มีส่วนร่วมในการใช้นโยบายเรื่องปรองดองมาใช้ในการลงคะแนน จึงไม่มีหลักประกันว่าหลังจัดตั้งรัฐบาลแล้ว จะมีกระบวนการปรองดองแห่งชาติ ที่ถูกต้องตามหลักการ จะมีแต่การเกี่ยเซี้ยระหว่างพรรคการเมือง
นายคณิต ณ นคร ประธานคอป. กล่าวว่า ที่ผ่านมา คอป.ได้วางมาตรการเพื่อลดความขัดแย้งในสังคมไทย และป้องกันมิให้เกิดความรุนแรงและความสูญเสียขึ้นอีกในอนาคต โดยนำข้อสรุปเสนอ ครม.ไปแล้ว โดยมีประเด็นที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งคือ ทำให้การเลือกตั้งปราศจากความรุนแรงและเป็นกลางอย่างแท้จริงและการประกาศจุดยืนที่ชัดเจนของพรรคการเมืองก่อนการเลือกตั้ง ถึงกระบวนการและแนวทางที่เป็นรูปธรรม ในการนำชาติบ้านเมืองไปสู่การก้าวข้ามปัญหาความขัดแย้งภายหลังการเลือกตั้ง ดังนั้น เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดอยากให้มีการขยายผลให้ทุกฝ่ายรับทราบ และอาจจะส่งผลต่อการกำหนดนโยบายที่เป็นรูปธรรมของพรรคการเมือง ในการนำประเทศก้าวข้ามความขัดแย้งภายหลังการเลือกตั้งได้