นายกฯ วอน"ทักษิณ"หยุดขู่ปลุกม็อบ หากพท.ชนะเลือกตั้งแต่ไม่ได้ตั้งรัฐบาล

ข่าวการเมือง Tuesday May 31, 2011 15:16 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ขอให้ทุกฝ่ายเคารพกฎหมายและอยากให้การเลือกตั้งเดินหน้าไปตามครรลองของระบอบประชาธิปไตย พร้อมเรียกร้อง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้หยุดการพูดจาในลักษณะข่มขู่ หลังจากที่ได้ออกมาให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศว่าหากพรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้งแล้วไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ก็จะมีมวลชนเสื้อแดงออกมาชุมนุมเรียกร้อง

"ทุกอย่างต้องเป็นไปตามระบบ อย่างที่บอก ในขณะที่ปากพูดว่าปรองดองกลับยังไม่หยุดยั้งในวิธีการข่มขู่คุกคาม ผมยืนยันการที่จะทำให้ประเทศสู่ความปรองดอง ต้องทำให้ประเทศนี้ไปเป็นสังคมที่เคารพกฎหมาย" นายกรัฐมนตรี กล่าวพร้อมระบุว่า การที่ประเทศยังไม่สามารถก้าวข้าม พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ เนื่องจากมีความพยายามของคนบางกลุ่มที่ไม่อยากให้จบจนกว่าจะได้สิ่งที่ตัวเองต้องการ

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่รู้สึกกังวลกับการที่พรรคประชาธิปัตย์จะต้องลงพื้นที่หาเสียงในภาคเหนือวันพรุ่งนี้(1 มิ.ย.) เพราะถือว่าไปด้วยความตั้งใจดี และต้องการพบปะประชาชน ซึ่งหากมีใครไม่เห็นด้วยก็เชื่อว่าหลังจากมีโอกาสได้ทำความเข้าใจกันแล้วก็น่าจะมีแนวโน้มไปในทางที่ดีขึ้นและเข้าใจกันมากขึ้น ส่วนที่มีกลยุทธ์ของบางฝ่ายพยายามจะกีดกันไม่ให้ตนสามารถสื่อสารกับประชาชนนั้น ยืนยันว่าจะยังคงเดินหน้าทำหน้าที่ต่อไป

ส่วนกรณีที่นายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา(ชทพ.) ออกมาแสดงความไม่พอใจกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้ทำตามสัญญาที่เคยรับปากไว้นั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คงมีเพียงเรื่องเดียวที่ไม่ได้ทำตามที่พูดไว้ คือการพาครอบครัวไปบึงฉวากตามคำเชิญของนายบรรหาร ส่วนกรณีที่นายบรรหาร จะไม่พอใจเรื่องที่ไม่ได้แก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 237 กรณียุบพรรคการเมืองนั้น ก็คงต้องยอมให้โกรธ เพราะขณะนั้นพรรคประชาธิปัตย์ยังมีคดียุบพรรคอยู่ ตนในฐานะนายกรัฐมนตรีคงไม่สามารถออกกฎหมายเพื่อล้างความผิดให้กับพรรคตนเองได้

"ต้องขออภัย 1 เรื่องที่ไม่ได้ทำตามคำพูด คือ ไม่ได้พาครอบครัวไปบึงฉวากก่อนยุบสภา รับปากไว้แต่ไม่ได้ทำ แต่เรื่องอื่น ไม่มี...ส่วนมาตรา 237 ผมยึดความถูกต้อง วันนั้นทำไม่ได้ เพราะประชาธิปัตย์มีคดียุบพรรคอยู่ ผมเป็นนายกรัฐมนตรีจะออกกฎหมายล้างความผิดเพื่อให้ตัวเองหลุดจากคดีคงทำไม่ได้ ถ้าจะโกรธเคืองกันก็ต้องยอม" นายกรัฐมนตรี กล่าว

พร้อมยอมรับว่า ตลอดเวลาที่ทำงานร่วมกับพรรคร่วมรัฐบาล ทราบดีว่ามีหลายเรื่องที่ทำให้พรรคร่วมฯ ขัดใจหรือทำให้รู้สึกไม่พอใจ แต่ยืนยันว่าทุกครั้งได้ใช้เหตุผลในการชี้แจงและอธิบาย ซึ่งทุกคนที่ร่วมงานกันต่างเข้าใจดี และไม่เชื่อว่าขณะนี้พรรคภูมิใจไทยหรือพรรคชาติไทยพัฒนาจะเห็นด้วยกับแนวทางการนิรโทษกรรมของพรรคเพื่อไทย เพราะการนิรโทษกรรมมีหลายประเด็นที่ต้องพิจารณาไม่ว่าจะเป็นเรื่องกรรมการบริหารพรรค, การทุจริตคอรัปชั่น หรือแม้แต่คดีก่อการร้าย ซึ่งไม่เข้าใจว่าเหตุใดถึงหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาพูดในช่วงเวลานี้ เพราะแต่ละพรรคการเมืองควรเดินหน้านำเสนอนโยบายเพื่อประชาชนจะเหมาะสมกว่า


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ