นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วยแกนนำพรรค เช่น นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง ในฐานะรองหัวหน้าพรรค, นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผอ.ศูนย์อำนวยการเลือกตั้ง กทม., นายเกียรติ สิทธีอมร ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ลำดับ 35 พรรคประชาธิปัตย์ ตลอดจนผู้สมัคร ส.ส.เขตคลองเตย ได้เดินทางมาหาเสียงที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) หลังจากที่ได้พาผู้สมัคร ส.ส.เขตคลองเตย ไปหาเสียงที่ตลาดคลองเตยมาแล้วในช่วงเช้า
โดยเมื่อนายอภิสิทธิ์ พร้อมด้วยแกนนำคนสำคัญของพรรคเดินทางมาถึงได้เดินเข้าไปเยี่ยมชมห้องสมุดมารวย รวมทั้งห้องโถงอาคารตลาดหลักทรัพย์ฯ จากนั้นได้เข้าไปพบปะกับพนักงานของตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่บริเวณโรงอาหาร ซึ่งตรงกับช่วงเที่ยงที่พนักงานประมาณ 200-300 คนรับประทานอาหารกลางวัน และได้สร้างความสนใจให้กับพนักงานฯ มากพอสมควร บางคนถือโอกาสถ่ายรูปกับหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ด้วย
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ขอโอกาสให้พรรคประชาธิปัตย์ได้ทำงานอีก 4 ปี เพื่อประโยชน์และการสานต่องานให้ประชาชน รวมถึงองค์กรตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่ได้เคยร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมา โดยเฉพาะเหตุการณ์ที่มีการเผาตลาดหลักทรัพย์ฯ จากการชุมนุมทางการเมืองเมื่อวันที่ 19 พ.ค.53
ทั้งนี้ ถือว่าตลาดหลักทรัพย์ฯ มีความสำคัญระดับประเทศในแง่เศรษฐกิจภาพรวม เนื่องจากเป็นแหล่งระดมทุนขนาดใหญ่ โดยหากพรรคประชาธิปัตย์ได้เป็นรัฐบาลต่อ จะเร่งสร้างความเชื่อมั่นด้านธรรมาภิบาล พัฒนาเทคโนโลยีระบบการซื้อ-ขายให้มีความทัดเทียมกับต่างชาติ และผลักดันให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ เป็นช่องทางหนึ่งในการออมที่น่าสนใจจากนักลงทุน
สำหรับภาวะเศรษฐกิจของประเทศในขณะนี้ แม้จะเติบโตดีโดยจะเห็นได้จากดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ หลังจากที่พรรคประชาธิปัตย์เข้ามาเป็นรัฐบาล ซึ่งพบว่าดัชนีหลักทรัพย์เพิ่มขึ้นค่อนข้างมาก แต่หลังจากนี้ไปยังจะต้องแก้ไขปัญหาเรื่องราคาสินค้าทั้งด้านอาหารและพลังงาน หลังจากได้แก้ไขปัญหาเศรษฐกิจในภาพรวมแล้ว