เอแบคโพลล์เผยฐานสนับสนุนปชช.ต่อ"ยิ่งลักษณ์"เพิ่มขึ้นหลายด้าน

ข่าวการเมือง Sunday June 5, 2011 11:27 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยเอแบคโพลล์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เปิดเผยว่าผลวิจัยเชิงสำรวจ เรื่อง สำรวจภาพลักษณ์ความเป็นผู้นำระหว่างนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ครั้งที่สาม กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไปใน 17 จังหวัดของประเทศ

ได้แก่ กรุงเทพมหานคร ประจวบคีรีขันธ์ กาญจนบุรี สุพรรณบุรี ชลบุรี พะเยา เพชรบูรณ์ เชียงใหม่ นครพนม สกลนคร สุรินทร์ บุรีรัมย์ ขอนแก่น นครราชสีมา กระบี่ นราธิวาส และสงขลา จำนวนทั้งสิ้น 2,210 ตัวอย่าง ดำเนินโครงการระหว่าง วันที่ 30 พฤษภาคม — 4 มิถุนายน 2554 ที่ผ่านมา โดยมีช่วงความคลาดเคลื่อนบวกลบร้อยละ 7 จากการเลือกตัวอย่างและวิธีการสุ่มตัวอย่างครั้งนี้ ประเด็นสำคัญที่ค้นพบคือ

แนวโน้มฐานสนับสนุนของประชาชนต่อน.ส.ยิ่งลักษณ์ เพิ่มสูงขึ้นจากการศึกษาครั้งแรกอย่างมีนัยสำคัญ ทางสถิติหลายตัว เช่น ความอดทนอดกลั้น ควบคุมอารมณ์จากร้อยละ 9.7 ในครั้งแรก มาอยู่ที่ร้อยละ 31.6 ในครั้งล่าสุด ความสุภาพอ่อนโยน จากร้อยละ 13.0 มาอยู่ที่ร้อยละ 37.4 การยอมรับจากภายในประเทศและต่างประเทศจากร้อยละ 11.3 มาอยู่ที่ร้อยละ 29.3 การประพฤติตนเป็นแบบอย่างที่ดีเพิ่มจากร้อยละ 9.8 มาอยู่ที่ร้อยละ 32.4 ความโอบอ้อมอารีเพิ่มจากร้อยละ 13.1 มาอยู่ที่ร้อยละ 34.2 ความเป็นผู้นำเพิ่มจากร้อยละ 12.9 มาอยู่ที่ร้อยละ 32.5

นอกจากนี้ยังมีอีกหลายตัวชี้วัดที่เพิ่มขึ้น เช่น ความรู้ความสามารถ มีจริยธรรมทางการเมือง มีวิสัยทัศน์ เสียสละ ซื่อสัตย์สุจริต ความยุติธรรม กล้าคิดกล้าตัดสินใจ แก้ปัญหาความขัดแย้งได้ดี และรวดเร็วฉับไวในการแก้ปัญหา เป็นต้น

โดยเฉพาะด้านความเป็นคนรุ่นใหม่ ความคิดสร้างสรรค์ พบว่า คะแนนนิยมของ น.ส.ยิ่งลักษณ์มีคะแนนชนะ นายอภิสิทธิ์

อย่างไรก็ตาม เมื่อเปรียบเทียบกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะในการศึกษาครั้งนี้ พบว่า ฐานสนับสนุนของประชาชนที่มีต่อนายอภิสิทธิ์ ยังคงสูงกว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์ ในหลายตัว เช่น ความเป็นผู้นำนายอภิสิทธิ์ ได้ร้อยละ 47.7 น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้ ร้อยละ 32.5 จริยธรรมทางการเมือง นายอภิสิทธิ์ ได้ร้อยละ 43.3 น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้ร้อยละ 29.5 และที่น่าสนใจคือ ความมีเสน่ห์น่าเลื่อมใสศรัทธาที่เพิ่มขึ้นมาอีกตัวชี้วัดหนึ่งในครั้งนี้ นายอภิสิทธิ์ ได้ร้อยละ 43.1 น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้ร้อยละ 34.3 แต่หากเปรียบเทียบผลการศึกษาครั้งแรกกับครั้งที่สามนี้จะพบว่า ตัวเลขที่นายอภิสิทธิ์ ได้รับค่อนข้างนิ่ง และมีแนวโน้มลดลงหลายตัว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ