นายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา(ชทพ.) ขอให้แกนนำพรรคภูมิใจไทย(ภท.) อย่าหวั่นไหวต่อกระแสข่าว โดยยืนยันการจับมือร่วมเป็นพันธมิตรทางการเมืองกับพรรคภูมิใจไทย(ภท.) ยังคงเหนียวแน่นตามที่ได้ทำสัญญาร่วมกันไว้เช่นเดิม
"พรรคชาติไทยพัฒนายังเป็นพันธมิตรกับพรรคภูมิใจไทย และที่ผ่านมาก็ได้ทำตามสัญญาที่ทำร่วมกันไว้ อย่าไปตื่นเต้นกับการสร้างกระแสของพรรคเพื่อไทย...อาบรรหารยังไม่ทิ้งหลานเนวิน" นายบรรหาร กล่าว
ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค ชทพ.กล่าวว่า หลังเลือกตั้งจะเป็นฝ่ายค้านหรือรัฐบาลก็จะต้องหารือทั้งสองฝ่าย แต่ถ้าจะต้องเป็นฝ่ายค้านต้องดูเหตุผลและสถานการณ์บ้านเมืองด้วย
ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค ชทพ.กล่าวว่า หลังเลือกตั้งตนเองจะสร้างละครเรื่องปรองดองคล้องใจ โดยให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) เป็นพระเอก และให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อลำดับที่ 1 พรรคเพื่อไทย(พท.) เป็นนางเอก โดยตนเองจะเป็นผู้ประพันธ์บทและเป็นพ่อสื่อให้พระนางหันหน้ามาปรองดอง และไม่ขัดข้องหาก พท.และ ปชป.จะจับมือกันจัดตั้งรัฐบาล แต่มองว่าเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยากในทางการเมือง
ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค ชทพ.กล่าวถึงการนิรโทษกรรมว่า อะไรที่ไม่เป็นธรรม หรือไม่ถูกต้องก็ควรได้รับการนิรโทษกรรม ซึ่งตนเองขอยืนยันว่าจะมีการแก้รัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะมาตรา 237 และมาตรา 68 ส่วนมาตราอื่นๆ นั้นต้องว่ากันอีกที
ด้านนายวัชระ กรรณิการ์ โฆษกพรรค ชทพ.กล่าวว่า ผู้บริหารพรรคได้หารือกันถึงแนวทางการหาเสียงแล้วมีข้อสรุปว่าจะแบ่งลงพื้นที่หาเสียง 2 ทีม โดยนายชุมพล ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคฯ จะดูแลพื้นที่ภาคกลางและภาคอีสาน ส่วน พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ และนายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ ช่วยกันดูแลพื้นที่ภาคเหนือ และจากการสำรวจของพรรคฯ เชื่อว่าผู้สมัครของพรรคฯ จะได้รับเลือกตั้ง 30-40 ที่นั่ง และหวังคะแนนในระบบบัญชีรายชื่อราว 2.5 ล้านคะแนน
โฆษกพรรค ชทพ.กล่าวว่า วันพรุ่งนี้(7 มิ.ย.) จะเดินทางไปสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) เพื่อยื่นหนังสือให้ชี้แจงเรื่องบัตรเลือกตั้งระบบแบ่งเขตที่ไม่เหมือนกับบัตรเลือกตั้งระบบบัญชีรายชื่อ เพราะพรรคฯ เกรงว่าประชาชนจะเกิดความสับสน