นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เดินทางไปร่วมรดน้ำศพนายชินทัต แสนสุข อายุ 48 ปี ชายขาพิการ ที่เสียชีวิตเนื่องจากถูกคนร้ายคดียาเสพติดยิงระหว่างหลบหนีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ต่อมาได้เดินทางไปที่บ้านพิชิตใจ ซึ่งเป็นสถานฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด ในโรงพยาบาลสิรินธร เขตบางกะปิ จากนั้นขึ้นรถแห่หาเสียงช่วยนางนาถยา เบญจศิริวรรณ ผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขต 21 ปชป. จากบริเวณหน้าบ้านพิชิตใจไปยังพื้นที่ชุมชนกระทุ่มเสือปลา ซอยอ่อนนุช 67 เพื่อสนทนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับครอบครัวผู้ประสบปัญหายาเสพติด ที่ลานอเนกประสงค์ชุมชนกระทุ่มเสือปลา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างนั้นมีหญิงสูงวัย 3-4 คน ชูป้าย"ฆาตรกร 91 ศพ ดีแต่พูด คิดได้ไงไข่ชั่งกิโล สินค้าแพง แรงงานถูก ประชาชนจะอยู่ได้ไง หยุดหลอกประชาชน" ซึ่งนายอภิสิทธิ์ ได้เดินเข้าไปคุยและชี้แจงว่า เรื่องไข่ไก่พยายามลดราคา ซึ่งขณะนี้ราคาก็ลดลงมาแล้วฟองละ 30 สตางค์ และจะพยายามลดลงมาอีก ส่วนเรื่องของการขายไข่แบบชั่งกิโลนั้นเป็นเพียงทางเลือกกับประชาชน
ส่วนคดี 91 ศพนั้น นายอภิสิทธิ์ ยืนยันว่าไม่ได้เป็นผู้สั่งให้ทหารไปฆ่าประชาชน โดยระบุว่าในบริเวณพื้นที่สี่แยกคอกวัวเกิดจากการที่เจ้าหน้าที่เข้าไปขอคืนพื้นที่ ซึ่งเมื่อถึงเวลา 18.00 น.ได้มีการสั่งให้เจ้าหน้าที่ถอนกำลังออกจากพื้นที่ แต่มีการยิงระเบิดเข้าไปจึงทำให้มีการปะทะกันเกิดขึ้น และในระหว่างนั้นตนเองได้ติดตามสถานการณ์ผ่านโทรทัศน์วงจรปิด และได้เจรจาในทางลับในค่ายทหาร รวมทั้งยืนยันว่าหากสามารถจับกุมคนที่ยิงระเบิดได้ก็จับไปนานแล้ว
ส่วนความคืบหน้าของผู้เสียชีวิต 91 ศพก็อยู่ระหว่างการสอบสวน และผู้ที่ได้รับบาดเจ็บรัฐบาลได้เข้าไปเยียวยาช่วยเหลือแล้ว แต่หญิงกลุ่มดังกล่าวไม่รับฟัง ขณะที่กองเชียร์พรรคประชาธิปัตย์ได้มีการโห่ร้อง แต่มีบางคนยอมรับฟัง และบอกว่าไม่ได้โกรธแค้นส่วนตัวแต่ต้องรับฟังความคิดเห็นของประชาชนบ้าง และเสนอให้ตัวแทนของกลุ่มสีเสื้อต่างๆ ที่ขัดแย้งในสังคมไปเฝ้าหีบบัตรเลือกตั้ง ซึ่งนายอภิสิทธิ์ ก็เห็นด้วยกับแนวคิดดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากนายอภิสิทธิ์ ได้เข้าชี้แจงแล้วจึงได้มีการแยกย้ายกันไป โดยนายอภิสิทธิ์ ได้เดินทักทายประชาชน และกลุ่มผู้สนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ต่อ