น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อ อันดับ 1 พรรคเพื่อไทย เดินทางลงพื้นที่หาเสียง จ.นครพนม โดยภารกิจแรก เดินทางไปหาเสียงบริเวณตลาดนครพนม โดยได้มีการลงมือทำปอเปี๊ยะสดและปากหม้อ จากนั้นไปสักการะองค์พระธานตุนครพนม ซึ่งมีประชาชนให้การต้อนรับจำนวนมาก ซึ่งหลังจากนั้นจะเดินทางไปปราศรัยใหญ่ จ.สกลนคร ต่อไป
น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ขณะนี้ถือว่าเร็วเกินไปที่จะมาคุยเรื่องการจัดตั้งรัฐบาล คงต้องดูว่าพรรคไหนที่จะได้รับเสียงส่วนใหญ่จากประชาชนก่อน เป็นผู้เริ่มจัดตั้งรัฐบาล
"เราทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด พยายามก้าวไปสู่ความสามัคคีปรองดอง"น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าว
ส่วนกรณีที่ทางพรรคมาตุภูมิของพล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน จะขอร่วมตั้งรัฐบาลนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ยังไม่ได้มีการคุยเรื่องตั้งรัฐบาล ขอรอผลการเลือกตั้งออกมาก่อน หากพรรคเพื่อไทยได้รับเสียงส่วนใหญ่ พรรคคงมีนโยบายและทิศทางที่ชัดเจนอีกครั้งหนึ่ง แต่อย่างไรก็ตาม การจะร่วมรัฐบาลกันหรือไม่คงต้องดูในเรื่องอุดมการณ์ นโยบายต่างๆ ว่าไปด้วยกันได้หรือไม่อย่างไร
น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวถึงกรณีที่นายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา จะให้รับบทเป็นนางเอกในละครปรองดองว่า อยู่ที่พี่น้องว่าจะให้ทำงานบทบาทไหน ขอเป็นคนของประชาชนดีกว่า
ส่วนการที่นายแก้วสรร อติโพธิ อดีตคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.)ออกมาทำหน้าที่เครือข่ายพลเมืองคัดค้านนิรโทษกรรม คอร์รัปชั่นทักษิณ (คนท.) โดยจะมีการตั้งโต๊ะแถลงข่าววันนี้ว่า ยอมรับการตรวจสอบต่อสาธาณชนบนกติกาที่ให้ความเป็นธรรมด้วย แต่ยืนยันว่าจะอดทนและทำหน้าที่ชี้แจงอย่างดีที่สุด ทั้งนี้ อยากเห็นทุกอย่างเป็นไปอย่างสร้างสรรค์
"การที่เราได้มาคุยกันว่าบ้านเมืองเดินหน้า แก้ปัญหาเศรษฐกิจมากกว่ามองแต่ความขัดแย้ง ถ้าเราเองมองก้าวข้ามความขัดแย้ง เดินไปข้างหน้าจากที่ประชาชน ฝากความหวังกับรัฐบาลใหม่ ส่วนการยอมรับในผลของประชาชนเป็นการเริ่มต้นของประชาธิปไตยสมบูรณ์แบบ"น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าว
สำหรับลงพื้นที่จ.นครพนม บ้านเกิด พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ได้มีการให้คำปรึกษาอย่างไรบ้าง น.ส.ยิ่งลักษณื กล่าวว่า ยังไม่โอกาสได้คุยกับท่านเลย โดยยังให้ความเคารพนับถือเหมือนเดิม แต่มีตัวแทนส.ส.อยู่แล้ว และมีข้อแนะนำข้อห่วงใยของประชาชนให้กับพรรค
นอกจากนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้มีการโพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กว่า ทันทีที่ได้ตัดสินใจเข้ามาทำงานการเมือง ก็รู้ว่าต้องพบทั้งแรงต่อต้าน เสียดสี เมื่อมาถึงจุดนี้คงต้องยืนยันอีกครั้งถึงความพร้อม และ ความมุ่งมั่นที่จะเข้ามาทำงานการเมืองโดยไม่คิดแก้แค้น แต่จะแก้ไข และนำนโยบายของพรรคก้าวข้ามวิกฤติ คือการคืนความสุขให้คนไทย คืนประชาธิปไตยให้ประชาชนอย่างแท้จริงค่ะ