เลือกตั้ง'54:พันธมิตรฯชี้ยังไม่มีสิทธิปลดป้ายโหวตโน,เดินหน้าขอศาลคุ้มครอง

ข่าวการเมือง Thursday June 9, 2011 14:23 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

โฆษกกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ระบุเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถปลดป้ายรณรงค์โหวตโนของพรรคเพื่อฟ้าดินได้ในขณะนี้ เพราะทาง กกต.ยังไม่ได้มีหนังสือแจ้งกรณีที่ กกต.มีมติ 4 ต่อ 1 เสียง ให้พรรคเพื่อฟ้าดินปลดป้ายดังกล่าวอย่างเป็นทางการตามระเบียบ

"ขณะนี้ยังไม่มีหนังสือหรือความชัดเจนของ กกต.มายังพรรคเพื่อฟ้าดิน จึงทำให้ไม่ทราบว่ากระทำผิดด้วยเหตุผลใด หรือต้องทำการแก้ไขภายในกี่วัน ดังนั้นเจ้าหน้าที่รัฐก็ไม่อำนาจที่จะมาปลดป้ายในตอนนี้" นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าว

โฆษกกลุ่มพันธมิตรฯ กล่าวว่า แม้ กกต.จะมีหนังสือแจ้งให้ทราบอย่างเป็นทางการแล้ว ในเบื้องต้นพรรคเพื่อฟ้าดินก็เตรียมยื่นคัดค้านต่อศาลแพ่งและศาลปกครอง เพราะการวินิจฉัยของ กกต.กล่าวถึงเพียงป้ายรณรงค์ชุดแรกที่ระบุข้อความ อย่าปล่อยสัตว์เข้าสภา ดังนั้นจึงไม่ครอบคลุมป้ายรณรงค์ชุดที่ 2 ซึ่งมี 4 แบบ และไม่ได้มีข้อความอย่าปล่อยสัตว์เข้าสภา แต่ได้ระบุตราสัญลักษณ์และหมายเลขพรรคเพื่อฟ้าดินแล้ว เจ้าหน้าที่รัฐจึงจะฉวยโอกาสมาปลดป้ายทั้งหมดไม่ได้

โฆษกกลุ่มพันธมิตรฯ กล่าวว่า ป้ายดังกล่าวไม่ได้เป็นกรรมสิทธิ์ของกลุ่มพันธมิตรฯ แต่เป็นป้ายหาเสียงที่จัดทำขึ้นในนามพรรคเพื่อฟ้าดินที่ได้ส่งผู้สมัครลงทั้งระบบเขตและระบบบัญชีรายชื่ออย่างถูกต้อง หากจะมาอ้างว่ามีการให้ร้ายบุคคลหรือนักการเมืองก็ต้องชี้แจงว่าป้ายทั้งหมดมีเพียงรูปภาพของสัตว์ ไม่มีภาพของมนุษย์คนไหน นักการเมืองไม่สามารถมาสมอ้างว่าเป็นตัวเองได้ โดยแนวทางการณรงค์หาเสียงของพรรคเพื่อฟ้าดิน ที่มีนโยบายในการให้เลือกคนดีเข้าไปทำหน้าที่ ส.ส.เพียงปฏิรูปการเมือง หากไม่มีผู้เหมาะสมก็เชิญชวนให้ร่วมลงคะแนนในช่องไม่ประสงค์ลงคะแนนหรือโหวตโนกับภาคประชาชน ส่วนที่ กทม.อ้างว่าป้ายดังกล่าวไม่ใช่ป้ายหาเสียงนั้น ก็ขอถามว่าเมื่อครั้งที่กลุ่มคนเสื้อแดงติดป้ายเรียกร้องให้ยุบสภาในคณะที่มีการชุมนุมนั้น ไม่เห็น กทม.ออกมาทำหน้าที่เหมือนเช่นตอนนี้เลย จึงเห็นว่า กทม.พยายามเลือกปฏิบัติ

"เมื่อการรณรงค์ของพรรคเพื่อฟ้าดินถูกกลั่นแกล้งรังแกต่างๆ นานา กลุ่มพันธมิตรในฐานะภาคประชาชนที่เป็นแนวร่วม จึงไม่มีทางเลือกและจำเป็นที่จะต้องใช้วิธีในการเดินรณรงค์โหวตโนให้มากยิ่งขึ้น โดยรัฐธรรมนูญก็ได้กำหนดให้ประชาชนสามารถลงคะแนนในช่องไม่ประสงค์เลือกใครได้เท่าเทียมกับช่องหมายเลขของพรรคการเมืองต่างๆ ด้วย" นายปานเทพ กล่าว

โฆษกลุ่มพันธมิตรฯ ยังกล่าวถึงกรณีมีผู้นำคลิปวีดีโอไปเผยแพร่ทางอินเทอร์เน็ตให้ร้ายนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ ว่า เป็นกระบวนการที่พยายามดิสเครดิตภาคประชาชน โดยกล่าวหาว่าแกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ ไปทำอะไรที่มิชอบ แต่จากการตรวจสอบเบื้องต้นก็พบว่าเป็นเพียงคลิกบทสนทนาของบุคคลที่กล่าวถึงนายสนธิเท่านั้น โดยที่นายสนธิไม่ได้อยู่ในคลิปวิดีโอด้วย เป็นเทคนิคการนำเสนอและการตั้งชื่อคลิปให้ดูน่าสนใจทั้งนั้น ไม่ได้มีข้อเท็จจริงแต่ประการใด

"ขณะนี้ได้มีคน 2 กลุ่มที่พยายามต่อต้านกระแสโหวตโน กลุ่มหนึ่งเป็นพรรคการเมืองที่หวังชิงคะแนนโหวตโนให้ตัวเอง โดยคิดเพียงสั้นๆ ที่ต้องการคะแนนเสียงให้มากที่สุด แต่สุดท้ายก็ต้องไปพ่ายแพ้เสียงในสภาอยู่ดี ขณะที่อีกฝ่ายเป็นพรรคการเมืองที่มั่นใจว่าชนะการเลือกตั้งด้วยคะแนนเสียงเกินครึ่งอย่างแน่นอนจึงพยายามลดทอนคะแนนโหวตโน เพราะเกรงว่าหากมีมากจะกลายเป็นอำนาจต่อรองนอกสภาของประชาชน ทำให้พรรคการเมืองดังกล่าวทำอะไรได้ไม่ถนัด ดังนั้นการโหวตโนจึงไม่ได้เป็นเพียงการตัดคะแนนของพรรคใดพรรคหนึ่ง แต่มีผลกระทบต่อทั้ง 2 ขั้วการเมือง" นายปานเทพ กล่าว

ด้าน ร.ต.แซมดิน เลิศบุศย์ เลขาธิการพรรคเพื่อฟ้าดิน กล่าวว่า ตนเองจะเดินทางไปยังสำนักงาน กกต.เพื่อสอบถามความชัดเจนจากนายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธาน กกต. เพราะข่าวที่ปรากฎตามสื่อนั้นส่งผลให้สังคมมองว่า พรรคกระทำความผิด แต่ไม่ได้บอกว่าทำความผิดอย่างไร และวันพรุ่งนี้(10 มิ.ย.) จะไปขออำนาจศาลให้วินิจฉัยว่าพรรคได้ทำผิดจริงหรือไม่ หลังจากที่ได้รับทราบความชัดเจนจาก กกต.แล้ว รวมทั้งการเอาผิดต่อเจ้าหน้าที่รัฐที่มีพฤติกรรมจงใจกลั่นแกล้งทั้งทางแพ่งและทางอาญาด้วย โดยจะต่อสู้ถึงที่สุดเพื่อสร้างบรรทัดฐานให้กับการเมืองไทย

เลขาธิการพรรคเพื่อฟ้าดิน กล่าวว่า การที่พรรคตัดสินใจเข้าร่วมแนวทางโหวตโนกับภาคประชาชนนั้นมีสาเหตุ 3 ประการ คือ 1.การเข้าสู่อำนาจของนักการเมืองในปัจจุบันไม่ได้เป็นไปตามระบอบประชาธิปไตย มีการซื้อสิทธิ์ขายเสียงอย่างมโหฬาร โดยที่ กกต.หรือประชาชนก็ทราบดี แต่ก็ไม่สามารถหยุดยั้งจับกุมการทุจริตได้เลย 2.เมื่อนักการเมืองเข้าวู่อำนาจแล้ว ก็มีการใช้อำนาจโดยไม่สนใจประชาชน โดยเฉพาะเรื่องเขตแดนที่ข้อแนะนำจากประชาชนถึงหนทางการแก้ไขปัญหา แต่ก็ไม่ได้รับการตอบสนอง จนทำให้ประเทศต้องถูกรุกล้ำอธิปไตย และ 3.ระบบการตรวจสอบถ่วงดุลอำนาจของนักการเมืองไม่สามารถทำได้ย่างมีประสิทธิภาพ จนส่งผลให้คนผิดไม่ได้รับการลงโทษ

"พรรคเพื่อฟ้าดินเห็นว่าการปฏิรูปการเมืองเป็นหนทางในการแก้ไขปัญหาของประเทศทั้งระบบโดยเสียงของคนไทยทั้งประเทศ" ร.ต.แซมดิน กล่าว

ขณะที่นายประพันธ์ คูณมี โฆษกคณะกรรมการป้องกันราชอาณาจักรไทย กล่าวว่า มติ กกต.ไม่ได้มีรายละเอียดที่ชัดเจน ซึ่งตนเองเห็นว่าการรณรงค์โดยภาคประชาชนนั้นสามารถทำได้ตามกฎหมายที่สามารถแสดงออกทางการเมืองได้ โดยการติดตั้งป้ายในพื้นที่ของตัวเอง กกต.ก็ไม่มีอำนาจสั่งให้ปลด ถือเป็นสิทธิของประชาชน ขณะที่พรรคเพื่อป้าดินก็ได้ทำตามกฎระเบียบที่ กกต.กำหนดแล้วทั้งเรื่องจำนวนหรือขนาด ดังนั้นจึงต้องให้ กกต.ออกมาชี้แจงว่าผิดอย่างไร

"การที่ กกต.อ้างถึง พ.ร.บ.การรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง ในการกล่าวโทษพรรคเพื่อป้าดินนั้นถือเป็นการเลือกปฏิบัติอย่างชัดเจน เพราะหากพิจารณาในลักษณะนี้ป้ายหาเสียงของพรรคการเมืองอื่นๆ ก็เข้าข่ายมีความผิดเช่นเดียวกัน" นายประพันธ์ กล่าว

นอกจากนี้ การอ้างมาตรา 59-60 ของ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และ ส.ว. นั้น ก็ต้องถือว่าพรรคเพื่อฟ้าดินมีสิทธิในการติดตั้งป้ายรณรงค์หาเสียงของตัวเอง เพราะได้สมัครเลือกตั้งอย่างถูกต้อง ดังนั้นจึงเห็นว่า กกต.จงใจเลือกปฏิบัติ อย่างไรก็ตามหากมีคำวินิจฉัยว่ามีความผิดก็ยังไม่สามารถปลดป้ายได้ เพราะระเบียบกำหนดให้แจ้งถึงข้อผิดพลาดและเปิดโอกาสให้แก้ไขตามระยะเวลาที่กำหนดเสียก่อน

ส่วนการทำกิจกรรมดาวกระจายไปรณรงค์โหวตโนที่จะเริ่มในวันพรุ่งนี้(10 มิ.ย.) กลุ่มพันธมิตรฯ จะยังคงดำเนินกิจกรรมตามที่กำหนดไว้ โดยได้เตรียมป้ายรณรงค์โหวตโนทั้ง 2 แบบร่วมในการเดินขบวนรณรงค์ด้วย ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่ 11.00 น.ที่บริเวณลานพระบรมรูป ร.6 สวนลุมพินี ก่อนที่จะปล่อยขบวนรถขยายเสียง ขบวนแจกแผ่นพับใบปลิวและสติ๊กเกอร์ไปตามถนนสีลมต่อเนื่องไปสุดที่ถนนเจริญกรุง และสิ้นสุดกิจกรรมในเวลาประมาณ 12.00 น.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ