นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย(พท.) เปิดเผยว่า คณะทำงานด้านการเมืองของพรรคเพื่อไทยได้วิเคราะห์กรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในฐานหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) หาเสียงโดยประกาศว่าขอทำงานต่อไปและจะทำทันทีว่า เป็นถ้อยคำหาเสียงที่เลื่อนลอย เพราะสัญญาว่าจะทำในสิ่งที่เคยมีโอกาสแต่กลับไม่เคยทำ เหมือนเป็นการวางแผนหลอกเอาคะแนนจากประชาชน
ดังนั้นพรรคขอถือโอกาสทวงถามผลงานและแผนการทำงานของรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ ใน 5 เรื่องดังนี้ 1.ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น การที่รัฐบาลสถาปนาศอ.บต.ขึ้นมาใหม่เพื่อใช้เป็นเครื่องมือแก้ปัญหาให้แล้วเสร็จภายใน 99 วัน แต่ผ่านมาแล้ว 2 ปีครึ่งยังมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก จึงขอถามนายอภิสิทธิ์ว่า หากเป็นรัฐบาลจะหยุดยั้งการก่อการร้ายและการฆ่ากันทันทีได้อย่างไร
2.ปัญหาการเสียชีวิตของประชาชน 91 ศพ ในช่วงการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงที่นายอภิสิทธิ์ สัญญาว่าจะหาข้อเท็จจริงแต่ผ่านมาแล้วกว่า 1 ปีก็ยังไม่คืบหน้า ขอถามว่านายอภิสิทธิ์ ยังจะขอเวลาสืบสวนสอบสวนไปอีกนานเท่าไหร่
3.ปัญหายาเสพติด มีการใช้กำลังทหารจากกอ.รมน.นับหมื่นนายเข้าไปหายาเสพติดแบบปูพรมไปทั่วทุกเขตเลือกตั้ง แต่ไม่ปรากฏว่ามีการปราบปรามยาเสพติดแต่ประการใด ขอถามนายอภิสิทธิ์ว่า จะให้เจ้าหน้าที่ทหารจากกอ.รมน.หลายหมื่นนายปฏิบัติหน้าที่ในการปราบปรามยาเสพติดอีกนานแค่ไหน หรือเลือกเฉพาะเวลาที่มีการเลือกตั้งเท่านั้น
4.ปัญหาเรือน้ำตาลล่ม ในอยุธยา นายอภิสิทธิ์ เดินทางไปดูที่เกิดเหตุโดยใช้เวลาการฟังสรุปประมาณ 5 นาทีแล้วเดินทางกลับโดยสั่งการให้ผู้ว่าฯ รับผิดชอบแก้ไขปัญหา แต่ขณะนี้ผ่านมา 2 สัปดาห์แล้วความเสียหายยิ่งขยายวงกว้างมากขึ้น ขอถามว่าเหตุใดจึงแก้ไขอะไรไม่ได้เลย
และ 5.ปัญหาตำแหน่งอธิบดีกรมการปกครอง ขณะนี้ล่วงเลยมากว่า 6 เดือนแล้วที่คณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมและคณะกรรมการกฤษฎีกามีมติให้คืนความชอบธรรมให้กับนายพงศ์ศักดิ์ สวัสดิพานิช แต่ก็ยังไม่มีการดำเนินการใดๆ ขอถามนายอภิสิทธิ์ว่า การให้ความเป็นธรรมกับข้าราชการนั้นเป็นเรื่องไม่สำคัญใช่หรือไม่ และการกลั่นแกล้งรังแกข้าราชการจะยังมีอยู่ต่อไปอีกหรือไม่
"ทั้ง 5 ข้อนี้ ขัดกับสิ่งที่นายอภิสิทธิ์ขอกับสังคมให้อนุญาตให้ทำงานต่อไปและประกาศว่าจะทำทันที ดังนั้นพรรคเพื่อไทยจะถามต่อไปและจะถามทุกวันจนกว่าจะมีการเลือกตั้ง เพราะเป็นถ้อยคำที่ไม่เป็นความจริง ทำให้ประชาชนสับสน" นายปลอดประสพ กล่าว
นายปลอดประสพ ยังกล่าวถึงกรณีที่นายแก้วสรร อติโพธิ ผู้ก่อตั้งเครือข่ายพลเมืองคัดค้านนิรโทษกรรมคอรัปชั่นทักษิณ(คนท.) และ นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ แกนนำกลุ่มเสื้อหลากสี พยายามยื่นเรื่องต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ(DSI) ให้สอบสวน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้สมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ ลำดับ 1 พรรคเพื่อไทยว่า เป็นเรื่องที่น่าเกลียด เพราะเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อนหน้านี้ นายแก้วสรร เคยไปออกรายการและกล่าวถึงการโจมตีผู้สมัครเป็นเรื่องที่น่าเกลียดและไม่ควรทำในช่วงที่มีการเลือกตั้ง แต่ขณะเดียวกันนายแก้วสรร กลับทำเสียเอง ดังนั้นเชื่อว่าเรื่องนี้ต้องมีใบสั่ง
ขณะเดียวกันมองว่า ในกรณีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่เห็นมีใครติดใจประเด็นนี้ แต่เหตุใดนายแก้วสรร ถึงมาติดใจ และการที่กำลังจะสร้างม็อบไปกดดันหน่วยงานอื่นๆ เช่น กรมสอบสวนคดีพิเศษ และอัยการเพื่อให้รับเรื่องนั้นดูแล้วเหมือนทำตัวเป็นมาเฟีย นอกจากนี้นายแก้วสรร ไม่ใช่ผู้เสียหายแล้วจะเรียกร้องไปเพื่ออะไร คนที่เกี่ยวข้องโดยตรงยังไม่มีใครพูดอะไรสักคำ
ส่วนการที่ระบุว่า หากพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กลับมาแล้วประเทศจะเสียหายนั้น นายแก้วสรรพูด แบบนี้ได้อย่างไร การขัดขวางไม่ให้คนไทยกลับประเทศถือว่าไม่ถูกต้อง และเชื่อว่าเรื่องนี้มีเจตนาแอบแฝงอย่างแน่นอน