นายกรัฐมนตรี ระบุกรณีที่มีการจับกุมตัวสายลับชาวกัมพูชาได้นั้นจะเป็นประโยชน์ต่อไทยในการเจรจาปัญหาพิพาทบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งตัวแทนของไทยจะนำไปแจ้งให้ที่ประชุมคณะกรรมการมรดกโลกที่จะมีขึ้นในช่วงปลายเดือน มิ.ย.นี้ได้เห็นพฤติกรรมและเจตนาที่แท้จริงของกัมพูชาขณะที่มีการกล่าวหาว่าไทยรุกรานทั้งที่ไม่หลักฐาน ส่วนการดำเนินคดีนั้นต้องเป็นไปตามขั้นตอนทางกฎหมายของไทย จะไม่มีการส่งตัวกลับไปให้กัมพูชา เพียงแต่จะแจ้งให้ทางการกัมพูชาได้รับทราบว่าไทยไม่ยอมรับวิธีการเช่นนี้
"ผมคิดว่าเราต้องดำเนินคดีไป แต่จะแจ้งให้ทางกัมพูชาทราบว่าเราไม่ยอมรับการกระทำแบบนี้...ในส่วนของคณะกรรมการมรดกโลกนั้นจะมีการยื่นเรื่องให้แน่นอน และจะเป็นประโยชน์แน่นอน" นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายสุวิทย์ คุณกิตติ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นหัวหน้าคณะผู้เจรจามรดกโลกฝ่ายไทย ได้รายงานให้ทราบว่า เมื่อวานนี้(9 มิ.ย.) ทหารไทยสามารถจับกุมตัวสายลับกัมพูชาจำนวน 3 คนที่เข้ามาสอดแนมที่ตั้งของกองกำลังทหารไทยตามบริเวณแนวชายแดน โดยมีการตรวจยึดเอกสาร รวมทั้งแผนที่ทางทหารต่างๆ
ส่วนจะมีการนำเรื่องดังกล่าวไปเจรจาต่อรองให้กัมพูชาปล่อยตัวนายวีระ สมความคิด และ น.ส.ราตรี พิพัฒนาไพบูรณ์ หรือไม่นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กำลังพิจารณารายละเอียดทั้งหมด เพราะว่าเราต้องสอบสวนไปให้ถึงต้นเหตุและวัตถุประสงค์ของคนเหล่านี้ เนื่องจากมีเอกสารหลายอย่าง ตรงนี้เราต้องให้ทางกัมพูชารับทราบว่านี่คือสิ่งที่เราได้พบ และนายสุวิทย์บอกว่าในเวทีอื่นเราจะใช้ตรงนี้ให้เป็นประโยชน์ด้วย
"ผมคิดว่าข้อมูลต่างๆ จะเป็นประโยชน์ เพราะว่าต่างชาติจะมองเห็นว่าสิ่งที่กัมพูชาไปอ้างมาตลอดว่าเราไปรุกรานอะไรต่างๆ ไม่ได้มีหลักฐานอะไรเลย ในทางตรงกันข้ามกับมีการกระทำอย่างนี้" นายอภิสิทธิ์ กล่าว