นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เผยจะเดินหน้าปฏิบัติการดาวกระจายรณรงค์โหวตโนอย่างต่อเนื่อง โดยวันพรุ่งนี้(11 มิ.ย.) จะเริ่มตั้งขบวนรณรงค์ที่บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิแล้วเคลื่อนไปจนถึงสวนจตุจักร ส่วนวันที่ 12 มิ.ย.จะเดินรณรงค์ตั้งแต่บริเวณหอศิลป์ กทม. สี่แยกปทุมวัน ไปจนถึงสี่แยกราชประสงค์ และในวันที่ 17 มิ.ย.54 จะเดินทางไปที่สำนักงานยูเนสโก ถนนสุขุมวิท เพื่อยื่นหนังสือยืนยันว่าประชาชนไม่เห็นด้วยกับการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก พร้อมร่วมรณรงค์โหวตโนตั้งแต่สำนักงานยูเนสโกจนถึงสี่แยกราชประสงค์
โฆษกกลุ่มพันธมิตรฯ กล่าวว่า การเดินรณรงค์โหวตโนครั้งแรกบนถนนสีลมในวันนี้มีประชาชนมาร่วมกิจกรรมราว 800 คน ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมาก และเห็นว่ามีประชาชนอีกมากที่เห็นด้วยกับการโหวตโน แต่ไม่ได้มาร่วมชุมนุมกับกลุ่มพันธมิตรฯ โดยเฉพาะคนที่ยังไม่ตัดสินใจว่าจะเลือกใคร
"ที่ผ่านมามีการขัดขวางและทำลายป้ายรณรงค์โหวตโนมาโดยตลอด จึงเห็นว่าควรใช้วิธีการเดินรณรงค์โหวตโนโดยสันติวิธีเพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบถึงแนวทางการโหวตโน และขณะนี้มีประชาชนจำนวนมากให้ความสนใจที่จะร่วมโหวตโน ซึ่งเชื่อว่าจะมีจำนวนมากกว่าการเลือกตั้งทุกครั้งที่ผ่านมา เพราะประชาชนบางส่วนเริ่มมีท่าทีเบื่อการเมืองปัจจุบัน" นายปานเทพ กล่าว
โฆษกกลุ่มพันธมิตรฯ กล่าวว่า หากพรรคเพื่อไทยชนะเลือกตั้งก็มีแนวโน้มว่าจะออกกฎหมายนิรโทษกรรม ทำให้กลุ่มพันธมิตรฯ ต้องออกมาชุมนุมอยู่ดี แต่หากประชาชนโหวตโนจำนวนมากก็เป็นอำนาจต่อรองที่ใช้เพียงการยื่นหนังสือคัดค้านเพื่อไม่ต้องมีการชุมนุมเกิดขึ้น แต่จะเป็นการค้านด้วยการโหวตโนไปโดยปริยาย ผมขอยืนยันว่าภาคประชาชนยอมรับเสียงข้างมาก แต่ไม่เห็นด้วยกับระบบการเมืองที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
ส่วนกรณีป้ายรณงค์โหวตโนรูปสัตว์ชนิดต่างๆ นั้น นายปานเทพ กล่าวว่า กกต.ไม่ได้วินิจฉัยว่าผิดกฎหมายการเลือกตั้ง กลุ่มพัยธมิตรฯ จึงไจไม่ไปร้องขอให้ศาลมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว แต่ กกต.พูดถึงป้ายคัทเอาท์ขนาดใหญ่ที่อยู่หลังเวทีกลุ่มพันธมิตรฯ ซึ่งในส่วนนี้ กกต.ไม่มีอำนาจหน้าที่สั่งการได้ เพราะป้ายดังกล่าวเป็นของการชุมนุมพันธมิตรฯ ที่ไม่ใช่ของพรรคเพื่อฟ้าดิน จึงต้องเป็นหน้าที่ของ กทม.ที่จะต้องเข้ามาเจรจา
ขณะที่ พล.ร.ท.ประทีป ชื่นอารมณ์ คณะกรรมการป้องกันราชอาณาจักรไทย กล่าวว่า หลังจากนี้จะมีการปฏิบัติการใช้สิทธิขั้นพื้นฐานของการเมืองภาคประชาชนต่อไปเรื่อยๆ โดยเฉพาะในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้งจะมีการยกระดับปฏิบัติการให้ถึงที่สุดเพื่อให้บรรลุตามเป้าหมาย