นายแก้วสรร อติโพธิ แกนนำเครือข่ายพลเมืองคัดค้านนิรโทษกรรมคอรัปชั่นทักษิณ (คนท.) ระบุว่า คนท.ตัดสินใจจะกล่าวโทษน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้สมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่ออันดับ 1 ของพรรคเพื่อไทย และพวก ต่อ 4 หน่วยงานในวันเดียวกัน 21 มิ.ย.นี้ ทั้งสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) กรมสอบสวนคดีพิเศษ(DSI) สำนักงานอัยการ และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)
คนท.เห็นว่าคดีให้ข้อมูลเป็นเท็จของน.ส.ยิ่งลักษณ์และพวกนี้ มี 2 กลุ่มคือ 1.ให้ข้อมูลเท็จต่อตลาดหลักทรัพย์ ส่วนนี้ คนท.จะมีหนังสือกล่าวโทษทั้งต่อ ก.ล.ต.และ DSI ผู้มีหน้าที่โดยตรง และ 2.ให้ข้อมูลเท็จต่อ คตส.และเบิกความเท็จต่อศาล ส่วนนี้จะแจ้ง DSI ว่าเป็นคดีเกี่ยวพันกับคดีตลาดหลักทรัพย์ และเพื่อความแน่นอน คนท.จะแจ้งไปยังอัยการและ ปปช. ในฐานะทำหน้าที่แทน คตส.ให้รับไปกล่าวโทษต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจต่อไปด้วย
"เดิมทีในชั้นแรก คนท. จะกล่าวโทษต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษก่อน แต่เมื่อปรากฏพฤติการณ์ของ ก.ล.ต. คนท.จึงปรับแผนใหม่ตัดสินใจจะกล่าวโทษครั้งเดียว ในวันอังคารที่ 21 มิถุนายนนี้ทั้งสี่หน่วยงานพร้อมกันในวันเดียวเลย... พร้อมขอเชิญพลเมืองผู้ยังนับถือกฎหมายทุกท่าน ร่วมประชุม รวบรวมเอกสารลงนามกล่าวโทษ ณ ตึกอเนกประสงค์ ชั้น 3 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ในวันเสาร์ที่ 18 มิถุนายนนี้ เวลา 14.00-16.00 น. โดยพร้อมเพรียงกันด้วย"คนท.ระบุในเอกสารเผยแพร่
บ่ายวันนี้ นายแก้วสรรร เดินทางมาที่ยังสำนักงาน ก.ล.ต.ในช่วงบ่ายวันนี้ เพื่อขอคำชี้แจงจากผู้บริหาร ก.ล.ต.กรณีที่ออกแถลงการณ์เมื่อวานนี้เกี่ยวกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ในคดีซุกหุ้นชินคอร์ปและคดีแจ้งโครสร้างการถือหุ้นเอสซีแอสเส็ท พร้อมทั้งกางป้ายผ้าที่มีข้อความว่า
"ทักษิณและพี่น้องต้องคดีซุกหุ้น 2 คดี คือ คดีซุกหุ้น SC ศาลตัดสินเฉพาะคดีหุ้น SHIN อย่าเอาคดีซุกหุ้น SC เข้ามายุ่งเกี่ยว, ความผิดตามกฎหมายตลาดหลักทรัพย์ของคดีซุกหุ้น SHIN คือ สมคบกันหลอกตลาดหลักทรัพย์ฯ ด้วยการซื้อขายหุ้นอันเป็นเท็จ มิใช่การซื้อขายโดยไม่ได้รายงาน (มาตรา 248) และ ความผิดแท้จริงที่ คนท. ต้องการจะกล่าวโทษ คือ สมคบกันให้ถ้อยคำอันเป็นเท็จต่อเจ้าหน้าที่ (มาตรา 302) และสมคบกันออกหนังสือชี้ชวนแจ้งโครงสร้างผู้ถือหุ้น อันเป็นเท็จ (มาตรา 278)"
ด้านนพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ แกนนำเครือข่ายกลุ่มเสื้อหลากสี กล่าวว่า จะเดินหน้าร้องทุกข์กล่าวโทษต่อ DSI ในวันที่ 21 มิ.ย.นี้ เนื่องจากเห็นว่าการตรวจสอบของ ก.ล.ต.เป็นการทำหน้าที่เพียงผิวเผิน ทำให้สาธารณะชนไม่ได้รับทราบความจริง โดยยืนยันว่าการกระทำของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ผิดตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ มาตรา 246 กรณีไม่รายงานการถือหุ้น เมื่อก้าวข้าม 5% และมาตร 247 ไม่ดำเนินการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ เมื่อถือหุ้นเกิน 25%
"ความผิดของนางสาวยิ่งลักษณ์ นอกจากจะไม่เหมาะสมกับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแล้ว การให้การเท็จ ยังมีความผิดอาญาด้วย โดยมีโทษจำคุกตั้งแต่ 5-7 ปี"นพ.ตุลย์ กล่าว