นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย(พท.) กล่าวถึงการทำงานร่วมกับกองทัพหากได้เป็นรัฐบาลว่า กองทัพถือเป็นองค์กรหนึ่งของราชการ และพรรคเพื่อไทยเป็นส่วนหนึ่งของสังคมการเมือง ดังนั้น ทั้ง 2 ฝ่ายต้องเข้าใจ ต้องอยู่ร่วมกัน และทำงานร่วมกัน หากพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลต้องกำหนดนโยบายที่ดี ถูกต้องตามกฎหมายให้เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ รวมถึงนโยบายด้านความมั่นคง ซึ่งกองทัพต้องปฏิบัติตามนโยบาย
แต่หากพรรคเพื่อไทยเป็นฝ่ายค้าน ก็ต้องทำงานร่วมกัน โดยฝ่ายความมั่นคงก็ต้องถูกฝ่ายค้านตรวจสอบ เมื่อต้องทำงานร่วมกันต้องเข้าใจบทบาทซึ่งกันและกัน พรรคเข้าใจบทบาทของกองทัพที่ต้องปกป้องสถาบัน ปกป้องประเทศ บางครั้งก็เข้ามาเกี่ยวข้องกับการเมือง หากพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลก็ต้องร่วมปกป้องสถาบัน และบอกให้กองทัพยึดถือประชาธิปไตยตามโลกสมัยใหม่
นายปลอดประสพ กล่าวว่า สิ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.)ออกมาพูดนั้น เชื่อว่าเป็นความตั้งใจดี ไม่มีปัญหาสำหรับพรรคเพื่อไทย จึงขอฝากไปถึงท่านไปทำความเข้าใจกับลูกน้องให้วางตัวเป็นกลางและให้อิสระในการเลือกตั้งด้วย
ส่วนกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีระบุไม่ให้ตอบโต้กองทัพนั้น พรรคเพื่อไทยต้องทำงานร่วมกับกองทัพ และในฐานะที่รู้จัก พล.อ.ประยุทธ์ มานานสมัยตั้งแต่เป็นรองอธิบดีกรมประมง เชื่อมั่นในตัว ผบ.ทบ. มั่นในใจกองทัพกับพรรคเพื่อไทยที่จะร่วมมือกันทำงาน
"ยืนยันว่าเราไม่มีนโยบายทั้งต่อหน้าและลับหลังทำร้ายกองทัพ หากเราได้เป็นรัฐบาล กองทัพอาจได้งบประมาณมากกว่าในปัจจุบัน มียุทโธปกรณ์ที่ทันสมัย" นายปลอดประสพ กล่าว
ส่วนกรณีที่โพลล์ของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี และเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่าจะชนะพรรคเพื่อไทย 5-6 ที่นั่งนั้น ขณะนี้ได้เขียนแปะข้างฝาไว้แล้วตามที่นายสุเทพแนะ ถือเป็นโพลล์ของจริงตามหลักไสยศาสตร์ ไม่เหมือนโพลสำนักอื่นที่เป็นวิทยาศาสตร์ที่ให้พรรคเพื่อไทยชนะ เพราะจะเห็นได้จากขณะนี้ที่กระแสความนิยมในสตรีมาแรงมาก
นายปลอดประสพ กล่าวถึงกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อลำดับ 1 พรรคเพื่อไทย เป็นคนใหม่สื่อจึงให้ความสนใจว่า ของใหม่อยากให้ลอง เพราะเราทำงานเป็นทีม