นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวก่อนออกเดินทางไปหาเสียงช่วยผู้สมัครส.ส.ในระบบเขต ที่ จ.เพชรบูรณ์ ว่า ในการจัดเวทีปราศรัยหาเสียงบริเวณแยกราชประสงค์ในวันที่ 23 มิ.ย. เพราะถือเป็นช่วงสุดท้ายของการเลือกตั้ง และพรรคจะเน้นการปราศรัยใหญ่ให้มากขึ้น และการจัดปราศรัยบริเวณแยกราชประสงค์นั้น ตนตั้งใจจะพูดถึงเหตุการณ์บ้านเมืองและนโยบายสร้างความปรองดอง เพราะบริเวณราชประสงค์เปรียบเสมือนสัญลักษณ์ของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อหลายปีก่อน ดังนั้นจคงต้องการให้ประชาชนได้รับฟังและเข้าใจเหตุการณ์ที่ผ่านมา รวมถึงแนวทางดับไฟประเทศของพรรค และไม่ได้กังวลที่อาจถูกนำไปโจมตีว่านำเหตุการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นในบ้านเมืองมาเป็นประเด็นในการหาเสียง เพราะที่ผ่านมา ไม่ว่าตนเองจะทำอะไรมักถูกหยิบยกไปโจมตีอยู่แล้ว
ส่วนการที พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ฯ ให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อต่างประเทศว่าจะเดินทางกลับประเทศไทย และกองทัพไม่ควรแทรกแซงการเลือกตั้งในวันที่ 3 ก.ค. นั้น เห็นว่า ทางกองทัพไม่เคยเข้ามาแทรกแซงการเลือกตั้ง เพราะมีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เป็นองค์กรที่รับผิดชอบดูแลและจัดการการเลือกตั้งอยู่และ และการที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องการเดินทางกลับประเทศไทย ต้องเป็นไปตามกฎหมาย เพราะพ.ต.ท.ทักษิณถูกศาลตัดสินให้ต้องโทษจำคุก และคนถูกศาลสั่งจำคุก ทหารก็ไม่สามารถเคลียร์ได้
"ที่ผ่านมาตนพยายามเตือนหลายครั้งว่า พ.ต.ท.ทักษิณมีความเห็นไม่ตรงกับพรรคประชาธิปัตย์หรือบุคคลใดก็ไม่เป็นไร แต่อย่าดึงเอาสถาบันหลัก หรือองค์กรที่เป็นกลางเข้ามาเกี่ยวข้อง การทำอย่างนี้มีแต่จะสร้างปัญหา และทำให้เกิดความแตกแยกมากขึ้น ซึ่งตนไม่เห็นด้วย และขอเรียกร้องให้หยุดความพยายามแบ่งแยกประเทศเพื่อประโยชน์ของตัวเอง" นายอภิสิทธิ์ กล่าว
หัวหน้าพรรค ปชป. กล่าวถึงการที่ กกต.จะเดินทางไปต่างประเทศว่า ถือเป็นดุลพินิจของกกต. โดยส่วนตัวคิดว่าสิ่งที่ต้องการมากที่สุดในขณะนี้คือการตรวจสอบกรณีการทุจริตการเลือกตั้ง หากมีการทุจริตควรจับกุมให้ได้ก่อนการเลือกตั้ง ซึ่งกรณียิงนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดลพบุรี ล่าสุดได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่ว่าพบเบาะแสในคดีแล้วพอสมควร และหวังว่าจะสามารถจับกุมตัวคนร้ายมาดำเนินคดีได้โดยเร็ว