นายสังศิต พิริยะรังสรรค์ ประธานและผู้อำนวยการโครงการปริญญาดุษฎีบัณฑิต สาชาวิชาการพัฒนาธรรมาภิบาล มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม ระบุว่า การทำงานของคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ประสบความล้มเหลวเรื่องธรรมาภิบาล เนื่องจากกฎระเบียบที่ออกมาขาดประสิทธิภาพในการตรวจจับผู้ทุจริตซื้อสิทธิขายเสียง
"เลือกตั้งครั้งนี้มีผู้สมัคร 80% ที่ใช้เงินซื้อเสียง แต่เชื่อว่าท้ายที่สุด กกต.จะจับใครไม่ได้เลย...มีชาวบ้านมาบอกว่าเดี๋ยวนี้มีการจ่ายเงินซื้อเสียงหัวละ 2-3 พันบาท คิดว่าข้อมูลที่ได้มาไม่ได้ถูกสร้างขึ้น" นายสังศิต กล่าว
นายสังศิต กล่าวว่า กกต.เป็นด่านแรกที่จะคัดกรองไม่ให้นักการเมืองทุจริตเข้ามาในระบบ เพื่อให้ตลาดการเมืองมีการแข่งขันอย่างแท้จริง เป็นธรรม ไม่มีการผูกขาด ซึ่งหากกลไกที่ กกต.มีอยู่ล้าหลังทำอะไรผู้ซื้อสิทธิขายเสียงไม่ได้ แทนที่จะคัดกรองเอาคนสุจริตไว้กลับกลายเป็นการคัดกรองคนสุจริตออกไปตั้งแต่ต้น
"ถ้าปล่อยให้คนทุจริตหลุดเข้ามาได้แล้วจะมาตามจับทีหลังก็คงไม่ทัน เพราะผ่านเข้ามาได้แล้วก็จะมีความชอบธรรมสูง และต้องเข้ามาทุจริตคอรัปชั่นแน่นอน"นายสังศิต กล่าว
นายสังศิต กล่าวว่า มาตรการทางสังคมเป็นหนทางหนึ่งที่จะนำมาใช้ลงโทษผู้ที่เกี่ยวข้องในการคอรัปชั่นทางการเมือง โดยทำให้เสียหน้าทั้งวงศ์ตระกูล เพราะหากเป็นความผิดเฉพาะตัวบุคคลอาจมีคนกล้าทำเพราะคิดว่าต้นทุนไม่สูง