นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ชี้ปัญหาการทุจริตคอรัปชั่นกลายพันธุ์มีความสลับซับซ้อนมากขึ้นกว่าในอดีต โดยเชื่อมโยงเกี่ยวพันทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง จนส่งผลให้ประเทศสูญเสียโอกาสในการแข่งขัน
"สภาพความเป็นจริง ปัญหาทุจริตคอรัปชั่นยังคงมีอยู่ แม้จะมีกฎระเบียบ กฎหมาย แต่การบังคับใช้กฎหมายยังไม่เต็มที่ ถ้าเรายังมองในมุมแคบตามข้อกฎหมายจะแก้ไขปัญหาไม่ได้" นายอภิสิทธิ์ กล่าวปาฐกถาพิเศษเรื่อง "วาระประเทศไทย...ธรรมาภิบาลที่ยั่งยืน" ซึ่งจัดโดยโครงการปริญญาดุษฎีบัณฑิต มหาวิทยาราชภัฎจันทรเกษม
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การทุจริตคอรัปชั่นมีความแยบยลซับซ้อนมากขึ้น อย่างเช่น การกำหนดให้โครงการที่มีมูลค่าตั้งแต่ 2 ล้านบาทขึ้นไปใช้วิธีประมูลอิเลคทรอนิกส์(e-Auction) ทำให้มีโครงการที่มีมูลค่าไม่เกิน 1.9 ล้านบาทเกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจสอบ
"เมื่อมีการประมูลอิเลคทรอนิกส์ได้ ก็มีการฮั้วอิเลคทรอนิกส์ได้เช่นกัน" นายอภิสิทธิ์ กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้นเหตุของปัญหาที่มองเห็นคือการกำหนดราคากลางในการจัดซื้อจัดจ้าง หรือก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่ ซึ่งช่วงที่ผ่านมาได้ให้สำนักงบประมาณไปศึกษาพบว่ามีการกำหนดราคากลางสูงกว่าความเป็นจริง 10-20 % ซึ่งเป็นการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ ทำให้ราคาส่วนเกินดังกล่าวตกไปอยู่ในมือของนักการเมือง อีกทั้งโครงการดังกล่าวจะขาดผู้เชี่ยวชาญติดตามดูแล และยังพบปัญหาการว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาที่มีการทำงานเพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับเอกชนบางราย
ซึ่งแนวทางการแก้ปัญหาต้องอาศัยการสร้างจิตสำนึกของคนในสังคมให้ร่วมมือกันขจัดปัญหาให้หมดไป เพราะมีผลสำรวจพบว่าคนยอมรับได้และเห็นว่ามีความจำเป็นต่อชีวิตประจำวัน และการเจริญก้าวหน้าในการทำงาน