นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย )พธม.) กล่าวถึงกรณีที่มีองค์กรสื่อและภาคเอกชน ร่วมกันออกแถลงการณ์โดยมีข้อเรียกร้องให้ทุกฝ่ายยอมรับผลการเลือกตั้ง และให้ทุกพรรคแสดงเจตจำนงยุติความขัดแย้ง รวมทั้งให้องค์กรอิสระเป็นตัวกลางสร้างความปรองดองว่า พันธมิตรฯ ไม่เคยเห็นว่าการเลือกตั้งเป็นทางออกเลย กลับเห็นว่าการเลือกตั้งจะนำไปสู่วิกฤตการณ์ที่ร้ายแรง รุนแรงมากขึ้นกว่าเดิมในอนาคต
การเลือกตั้งครั้งนี้มีการทุจริตกันอย่างมโหฬาร มีการซื้อสิทธิขายเสียงกว้างขวางทั่วประเทศ ตั้งแต่ 1,000-3,000 บาทต่อหัว ที่สำคัญไม่ใช่มีเฉพาะเรื่องเงินอย่างเดียว ยังมีการใช้อาวุธสงคราม กระสุนปืน ยิงใส่หัวคะแนน กระทั่งมีผู้เสียชีวิตและถูกข่มขู่ จนกระทั่งต้องมีเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตาม ส.ส.และหัวคะแนนเป็นจำนวนมาก ประกอบกับมีการทำลายป้ายหาเสียง ข่มขู่คุกคามประชาชนจำนวนมาก
“สิ่งเหล่านี้ไม่เรียกว่าเป็นการเลือกตั้งในระบอบประชาธิปไตย เป็นการเลือกตั้งที่ใช้เงินและอิทธิพลเป็นหลัก ไม่ใช่เจตนารมณ์ของประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ดังนั้น เราจึงไม่สามารถจะเห็นด้วยได้ และก็ไม่เห็นด้วยกับการที่รณรงค์ให้มีการยอมรับผลการเลือกตั้ง ทั้งๆ ที่การเลือกตั้งเหล่านี้ไม่มีใครเอาผิดได้ในการทุจริตการเลือกตั้งเลย เราเห็นว่าเป็นการเลือกตั้งที่ล้มเหลวที่สุด จะสร้างความแตกแยกร้าวฉานรุนแรงมากขึ้นไปกว่าเดิม" นายปานเทพ กล่าว
โฆษกพันธมิตรฯ กล่าวด้วยว่า เราเห็นว่าวิธีเดียวที่จะแก้ไขปัญหาวิกฤติครั้งนี้ได้ก็คือการเชิญชวนประชาชนไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งและกาในช่องไม่ประสงค์ลงคะแนนให้มากที่สุด และมากกว่า 26 เขต และจะยุติความล้มเหลวทางการเมืองได้ ถ้าเกิดการประชุมสภาไม่ได้ นักการเมืองเหล่านั้นก็เริ่มเข้าสู่อำนาจไม่ได้ ก็หมายความว่าอำนาจต่อรองจะกลับมาสู่ประชาชน โดยที่ประชาชนจะสามารถเรียกร้องการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ก่อนที่จะตัดสินใจในครั้งต่อไป
ทั้งนี้ สะท้อนให้เห็นว่า คะแนนโหวตโนเกิน 26 เขตเมื่อไร อำนาจต่อรองกลับมาสู่ประชาชนโดยทันที เพราะสภาเปิดไม่ได้ จนกว่าประชาชนจะมีความพึงพอใจที่มั่นใจได้ว่า ความขัดแย้งทั้งหลายจะถูกคลี่คลายก่อนที่จะมีการจัดตั้งรัฐบาลหรือว่า ส.ส.จะเข้าสภาไป เพราะฉะนั้นพันธมิตรฯ จึงไม่เห็นด้วยกับแถลงการณ์ดังกล่าว และขอสงวนสิทธิ์ที่จะไม่เห็นด้วยกับการใช้การเลือกตั้งครั้งนี้เข้ามาฟอกย้อมและให้ความชอบธรรมกับนักการเมือง
"เราเห็นว่าเป็นการเลือกตั้งที่ฉ้อฉลที่สุด ทุจริตมากที่สุด และ กกต.ก็ไม่สามารถเอาความผิดกับใครได้"นายปานเทพ กล่าว