นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) กล่าวภายหลังทราบว่า ในวันพุธที่ 22 มิ.ย.นี้ ทางคณะกรรมการมรดกโลกจะพิจารณาวาระเรื่องแผนบริหารจัดการมรดกโลก และปราสาทพระวิหารให้เป็นของกัมพูชา กรณีดังกล่าวทำให้เห็นได้ว่า กรณีที่ภาคประชาชนได้ยื่นหนังสือต่อสำนักงานยูเนสโกประจำประเทศไทย เพื่อให้ส่งต่อไปยังสำนักงานยูเนสโกที่ประเทศฝรั่งเศส เพื่อไปบรรจุในวาระว่าภาคประชาชนต้องการให้ถอนลบชื่อปราสาทพระวิหารออกจากบัญชีมรดกโลกนั้น มิได้ถูกบรรจุอยู่ในวาระแต่ประการใด
ดังนั้น ถือเป็นช่วงเวลาที่วิกฤติอย่างยิ่ง ทำให้ภาคประชาชนโดยคณะกรรมการป้องกันราชอาณาจักรไทย และพันธมิตรฯ จะเดินทางไปชุมนุมที่หน้าสำนักงานยูเนสโกกรุงเทพฯ ถนนสุขุมวิท เอกมัย ในเวลา 10.00 น. วันพรุ่งนี้ (22 มิ.ย.) เพื่อกดดันและให้ยูเนสโกที่ฝรั่งเศสนั้นยุติการเดินหน้าแผนบริหารจัดการมรดกโลก และถอนบัญชีปราสาทพระวิหารออกจากบัญชีมรดกโลกโดยเร็วที่สุด และจะมีการประสานกับนายเทพมนตรี ซึ่งเป็นตัวแทนคณะกรรมการป้องกันราชอาณาจักร ที่กำลังอยู่ในการพูดคุยกับคณะไทยอยู่ในเวลาตอนนี้ เพื่อขัดขวางการขึ้นทะเบียนให้ได้อย่างถึงที่สุด
ด้านนายประพันธ์ คูณมี โฆษกคณะกรรมการป้องกันราชอาณาจักรไทย กล่าวว่า ประเด็นที่ยูเนสโกยืนยันว่าเราได้ไปแสดงเจตนารมณ์และให้ข้อเท็จจริงต่อยูเนสโกเกือบครบถ้วนหมดแล้วถึงที่มาที่ไปของกระบวนการขึ้นทะเบียนมรดกโลกครั้งนี้ว่ามีพฤติกรรมในลักษณะที่ส่อว่าจะรุกรานเอาดินแดนและอธิปไตยของประเทศไทย ไปผนวกรวมอยู่ในแผนบริหารจัดการภายใต้การขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหาร และที่กัมพูชาเดินหน้ามาได้จนถึงทุกวันนี้ก็เพราะว่าคณะกรรมการมรดกโลกและยูเนสโกนั้นสมรู้ร่วมคิดกับกัมพูชา แต่เราก็ยังให้โอกาสว่าถ้าหากยูเนสโกเห็นแก่ปณิธานและหลักการของยูเนสโก และหลักการขึ้นทะเบียนมรดกโลกเอง ควรจะได้ลบชื่อปราสาทพระวิหารออกจากการขึ้นทะเบียนมรดกโลกทางวัฒนธรรมเสีย
ทั้งนี้ ยืนยันว่าถ้าหากยูเนสโกเดินหน้าเรื่องนี้ต่อไป จะนำมาซึ่งความขัดแย้งระหว่างไทยกับกัมพูชา และจะทำให้ยูเนสโกที่อยู่ในไทยและทั่วโลกเผชิญหน้าประชาชนไทย เพราะถือว่ายูเนสโกเป็นผู้สนับสนุน และเป็นเครื่องมือของประเทศมหาอำนาจในการรุกรานอธิปไตยของประเทศไทย ซึ่งประชาชนไทยก็จะไม่ยอมในประเด็นนี้ เราได้ฝากความห่วงใยและคำเตือนนี้ไปถึงองค์การยูเนสโกผ่านผู้แทนยูเนสโกที่ประเทศไทยไปแล้ว ถ้าหากวันพรุ่งนี้มีการประชุมและยังมีการเดินหน้าที่จะให้เป็นไปตามคำร้องขอของกัมพูชา ในการขึ้นทะเบียนมรดกโลกแล้วยังผนวกเอาดินแดนของประเทศไทยไปด้วย โดยไม่ฟังเสียงของประชาชนไทย ตนเชื่อว่าประชาชนไทยจะไม่ยอม เพราะว่าเราได้พูดเรื่องนี้อย่างจริงจังกับผู้แทนยูเนสโกไปแล้ว
"การเคลื่อนไหวของพวกเราที่ไปในวันพรุ่งนี้ก็เพื่อที่จะยืนยันเจตนารมณ์อันเดิมของเรา ในระหว่างการประชุมของคณะกรรมการมรดกโลก ให้รู้ว่าประชาชนไทยจะไม่ลดละในการต่อสู้เรื่องนี้จนถึงที่สุด ถ้าหากว่ายูเนสโกจะได้กลายเป็นองค์กรที่เป็นศัตรูกับประชาชนไทยแล้ว ยูเนสโกก็ไม่สมควรที่จะตั้งอยู่ในประเทศไทยต่อไป ประชาชนไทยก็คงจะต้องมีการเรียกร้อง กดดัน ต่อสู้ทุกวิถีทาง เพื่อให้ประเทศไทยต้องถอนตัวออกจากยูเนสโก สหรัฐอเมริกาก็เคยถอนตัว ประเทศอื่นก็เคยถอนตัว เมื่อเห็นว่ายูเนสโกมีพฤติกรรมที่ไม่เคารพหลักการของตนเอง และเข้าไปเกี่ยวข้อง แทรกแซงกิจการภายในหรือข้อพิพาทระหว่างประเทศ ซึ่งมันไม่ใช่หลักการของยูเนสโก เพราะฉะนั้นเมื่อยูเนสโกไม่เคารพหลักการของตนเอง ประชาชนไทยก็มีสิทธิ์ที่จะไม่เคารพยูเนสโก และไม่เคารพหลักการเช่นเดียวกัน เพราะว่าเขาเป็นผู้ละเมิดหลักการก่อน" นายประพันธ์กล่าว
นายประพันธ์ กล่าวต่อว่า ท่าทีแนวโน้มของการประชุมจะมุ่งไปในทิศทางอย่างไร ยังไม่เป็นที่น่าไว้วางใจ ว่าทางฝ่ายกัมพูชาและคณะกรรมการมรดกโลกยังมุ่งที่จะเดินหน้าในการประชุมครั้งนี้ ไปตามแผนการเดิมทุกประการ แม้กระทั่งเรื่องที่ว่าจะเลื่อนก็ไม่สนใจ ฉะนั้นวันนี้มันถึงจุดแตกหักที่สำคัญที่ประเทศไทยเองก็ถอยไม่ได้ในเรื่องนี้ ถ้านายสุวิทย์ คุณกิตติ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และคณะกรรมการมุ่งที่จะรักษาดินแดนของประเทศ ก็ต้องสู้ในประเด็นนี้อย่างถึงที่สุด
ผู้สื่อข่าวถามว่า การชุมนุมที่หน้ายูเนสโกในวันพรุ่งนี้จะมีการปักหลักพักค้างหรือไม่ นายปานเทพ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ และการประเมินสถานการณ์ แต่วาระการประชุมเป็นพรุ่งนี้ เราอาจจะรู้ผลวันพรุ่งนี้เลยก็ได้ ไม่ว่าทางใดทางหนึ่ง อาจจะมีการเลื่อนไปอีกหนึ่งวันก็ได้ ในระหว่างการเจรจาทุกอย่างเป็นไปได้ จึงไม่มีใครกำหนดแน่ชัด ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในเวลาตอนนั้น
"การไปครั้งนี้ไม่ใช่เป็นการกดดันปกติ แต่เป็นการประกาศว่าถ้ายูเนสโกยังคงลุแก่อำนาจ เดินหน้าโดยที่มีการละเมิดอธิปไตยต่อประเทศไทย ประชาชนชาวไทยจะถือว่า ยูเนสโกเป็นศัตรูกับประชาชนคนไทย จะยกสถานภาพไม่ใช่เป็นแค่องค์กรรักษาสันติภาพ หรือมรดกทางวัฒนธรรม ไม่ใช่องค์กรเหล่านั้นอีกต่อไปแล้ว ในสายตาประชาชนชาวไทย ซึ่งตนหวังว่าวันพรุ่งนี้จะเป็นการสำแดงพลัง เพื่อเรียกร้องให้ยูเนสโกและคณะกรรมการมรดกโลก ทบทวนท่าทีของตัวเองอย่างเร่งด่วน"นายประพันธ์ กล่าว