รัฐสภากรีซได้ลงมติรับรองรัฐบาลชุดใหม่ของนายกรัฐมนตรีจอร์จ ปาปันเดรอู แล้วในช่วงเช้าวันนี้ ซึ่งนับเป็นขั้นตอนสำคัญที่จะนำไปสู่การผ่านร่างกฎหมายปรับลดงบประมาณการใช้จ่าย ตามข้อกำหนดของการรับเงินช่วยเหลือครั้งใหม่จากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) และสหภาพยุโรป (อียู) ซึ่งจะช่วยให้กรีซรอดพ้นจากการผิดนัดชำระหนี้
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า หลังจากรัฐสภากรีซได้ใช้เวลา 3 วันในการอภิปรายเพื่อลงมติรับรองรัฐบาลชุดใหม่ภายใต้การนำของนายปาปันเดรอูแล้ว รัฐสภามีมติเห็นชอบให้ไว้วางใจนายปาปันเดรอูและคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ด้วยคะแนนเสียง 155 ต่อ 143 เสียง
รัฐบาลชุดใหม่ของนายปาปันเดรอูจะต้องเผชิญกับการอภิปรายของรัฐสภากรีซครั้งต่อไปในวันที่ 28 มิ.ย.นี้ โดยรัฐสภาจะพิจารณาร่างกฎหมายการลดงบประมาณการใช้จ่ายมูลค่า 2.8 หมื่นล้านยูโร (4.032 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ), การปรับขึ้นภาษี และโครงการแปรรูปรัฐวิสาหกิจมูลค่า 5 หมื่นล้านยูโร (7.2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งรวมถึงแผนยุทธศาสตร์ด้านการคลังระยะกลางที่จะนำมาใช้ในปี 2558
ทั้งนี้ หากรัฐสภากรีซรับรองแผนยุทธศาสตร์การคลังระยะกลาง ก็จะปูทางให้รัฐบาลกรีซสามารถรับช่วยเหลือครั้งใหม่จากไอเอ็มเอฟและอียู ซึ่งจะช่วยให้กรีซไม่ต้องเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้ และอาจจะช่วยยับยั้งการลุกลามของปัญหาหนี้ในยูโรโซน
นายเอแวนเจลอส เวนีเซลอส รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีคลังของกรีซ ได้แสดงความเชื่อมั่นว่า รัฐสภากรีซจะอนุมัตมาตรการรัดเข็มขัดครั้งใหม่ ซึ่งจะช่วยให้กรีซมีคุณสมบัติมากพอที่จะรับเงินเบิกจ่ายเงินกู้งวดที่ 5 มูลค่า 1.2 หมื่นล้านยูโร (1.69 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ได้ทันเวลาในเดือนก.ค. เพื่อจะช่วยให้กรีซรอดพ้นจากการผิดนัดชำระหนี้ได้ตามเวลาดังกล่าว ซึ่งเงินเบิกจ่ายงวดที่ 5 นั้นเป็นส่วนหนึ่งของเงินกู้วงเงินกู้รวม 1.10 แสนล้านยูโร (1.57 แสนล้านดอลลาร์) ที่อียูและไอเอ็มเอฟอนุมัติให้กับกรีซเมื่อเดือนพ.ค.ปีที่แล้ว เพื่อแลกกับการที่กรีซจะต้องใช้มาตรการรัดเข็มขัดและปฏิรูปเศรษฐกิจเพื่อลดการขาดดุลการคลังตามที่ให้คำมั่นสัญญาไว้
ทั้งนี้ นายเวนีเซลอนสมีกำหนดจะเจรจาร่วมกับคณะผู้ตรวจสอบบัญชีจากอียูและไอเอ็มเอฟในวันนี้ (22 มิ.ย.) เพื่อหารือกันเกี่ยวกับขั้นตอนต่อไปในการดำเนินการตามเป้าหมายอย่างเต็มรูปแบบของไอเอ็มเอฟและอียู ซึ่งรวมถึงการลดยอดขาดดุลงบประมาณและการช่วยเหลือกรีซให้หลุดพ้นจากวิกฤตหนี้ภายในปี 2557