พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) เปลี่ยนกระบวนท่าปรับวิธีการหาเสียงช่วงโค้งสุดท้ายหวังดึงคะแนนเสียงจากกลุ่มพลังเงียบออกมาใช้สิทธิจนสามารถชนะการเลือกตั้งแบบถล่มทลายเหมือนในปี 50 โดยจัดทีมหาเสียง 10 ทีมปูพรมทั่วกรุงเทพฯ
นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการเลือกตั้งภาค กทม. ปชป. กล่าวว่า พรรคฯ จะเปลี่ยนวิธีการหาเสียงใน กทม.ช่วงโค้งสุดท้าย โดยแบ่งทีมออกไปเดินหาเสียงตามจุดต่อรถ สถานที่ทำงาน และหมู่บ้านคนมีรั้ว ในช่วงเช้าวันที่ 24 มิ.ย.นี้ โดยจะเริ่มต้นจากลานพระบรมราชานุสาวรีย์ ร.6 ที่สวนลุมพินี
ทั้งนี้ จะแบ่งทีมหาเสียงออกเป็น 10 ทีม 2 เซต เซตแรกหาเสียงตามสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส และสถานีรถไฟใต้ดิน ประกอบด้วย สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสสีลม, สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสตากสิน, สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ, สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสอารีย์, สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสหมอชิต, สถานีรถไฟฟ้าใต้ดินเพชรบุรี, สถานีรถไฟฟ้าใต้ดินบางซื่อ, สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสวงเวียนใหญ่, สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสช่องนนทรี และสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสอ่อนนุช
เซตที่สองไปหาเสียงตามย่านออฟฟิศ ได้แก่ ย่านสีลม-แยกนราธิวาส, อโศก-พร้อมพงษ์, เพลินจิต-ราชประสงค์-ประตูน้ำ, ถนนรัชดาภิเษก, อนุสาวรีย์ชัย-ถนนพหลโยธิน, เยาวราช, วงเวียนใหญ่, ถนนพระราม 2-เซ็นทรัล 9-ถนนพระราม 3 และถนนพระราม 4-ตึกมาลีนนท์-ถนนสีลม
"จะใช้เนื้อหาการปราศรัยใหญ่ของพรรคที่แยกราชประสงค์ในวันพรุ่งนี้(23 มิ.ย.) ควบคู่กับนโยบายเพื่อคน กทม.ไปพูดกับประชาชน เพื่อเรียกร้องให้พลังเงียบออกมาลงคะแนนเสียง ซึ่งผลสำรวจของเอแบคโพลล์ที่ออกมายังระบุว่ามีคนที่ไม่ตัดสินใจว่าจะเลือกพรรคการเมืองใดกว่า 30%" นายอภิรักษ์ กล่าว
นายอภิรักษ์ กล่าวว่า หากดูผลโพลจะเห็นว่าคะแนนทั้ง ปชป.และ พท.ยังสูสีกัน เพราะเท่าที่สัมผัสคนที่สนับสนุนยังไม่กล้าแสดงออก โค้งสุดท้ายเราจึงต้องดึงพลังเงียบให้มาลงคะแนนเสียงให้กับพรรค ปชป.ให้ได้
ส่วนกรณีที่นายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าชาติไทยพัฒนา(ชทพ.) ประเมินว่าใน กทม.จะแพ้ชนะกันอยู่แค่ 3 ที่นั่งนั้น นายอภิรักษ์ กล่าวว่า ส่วนตัวเชื่อว่าเมื่อคน กทม.ได้เห็นผลงาน ทั้งจากผู้ว่าราชการ, ส.ก.และ ส.ข.ก็จะหันมาลงคะแนนให้กับผู้สมัครของพรรคด้วย และเชื่อว่ามีโอกาสที่ ปชป.จะชนะเลือกตั้งถล่มทลายเหมือนการเลือกตั้งปี 50