นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้สมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และแกนนำกลุ่วแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) กล่าวถึงกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์จะเปิดเวทีปราศรัยวันที่ 23 มิ.ย.ที่ราชประสงค์ว่า แม้จะรู้สึกเจ็บปวด แต่ไม่ขอตอบโต้หรือสร้างสงครามการเมืองกับพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ว่าจะถูกยั่วยุใดๆ ก็จะไม่ขอตอบโต้บนกองเลือดประชาชน แต่หากมีการบิดเบือนข้อเท็จจริงจะใช้ช่องทางกฎหมายดำเนินการ ขณะเดียวกันยังทราบมาว่ามีบุคคลบางกลุ่มเตรียมสร้างสถานการณ์ด้วย
"ขอส่งสัญญาณให้ประชาชนที่เป็นเสื้อแดง และไม่ว่าเสื้อสีไหนขอให้ตั้งสติให้ดี ขอให้ระมัดระวัง โดยเฉพาะคนเสื้อแดงหากไม่เห็นด้วยก็ไม่ต้องออกมาเคลื่อนไหว เพราะอาจจะเป็นสัญญาณอันตรายต่อระบอบประชาธิปไตย รายงานที่ได้รับมาอาจจะมีชายฉกรรจ์จากอีสานใต้มาสร้างสถานการณ์ ทั้งขับมอเตอร์ไซค์ ขว้างระเบิด ขว้างขวดน้ำมัน ถ้าเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นจริง ขอบอกเลยไม่เกี่ยวกับพรรคเพื่อไทย แต่เป็นฝีมือของคนบางกลุ่มต้องการสร้างสถานการณ์ให้เกิดขึ้น"นายณัฐวุฒิ กล่าว
นายณัฐวุฒิ ยังแถลงตอบโต้กรณีที่นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ แกนนำพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาระบุว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์เป็นคนเริ่มต้นการปรองดอง พร้อมอธิบายขั้นตอนการเจรจาต่างๆในช่วงชุมนุมทางการเมือง รวมทั้งได้กล่าวหาคนเสื้อแดง พรรคเพื่อไทย และพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นฝ่ายสร้างสถานการณ์สร้างความวุ่นวายนั้น ถือเป็นการพูดเท็จทั้งสิ้น
เพราะที่บอกว่านายอภิสิทธิ์ เป็นคนเริ่มต้นการปรองดอง สถานการณ์ความขัดแย้งไม่ได้เกิดในช่วงที่นายอภิสิทธิ์ เป็นนายกฯ แต่เกิดมาก่อนหน้านั้นสมัยปี 48 จนมาถึงช่วงชุมนุมที่ประชาชนออกมาต่อสู่เรียกร้องประชาธิปไตย แต่นายอภิสิทธิ์ มีคำสั่งใช้กำลังทหาร ทำให้ประชาชนบาดเจ็บ ล้มตาย จากนั้นนายอภิสิทธิ์ จึงเริ่มพูดคำว่าปรองดอง ทั้งที่ก่อนหน้านี้เราได้เรียกร้องความสามัคคีมาโดยตลอด แต่ไม่ได้รับการตอบสนอง
นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ในช่วงชุมนุมนั้น ตนในฐานะตัวแทน นปช.ไปเจรจากับบุคคลต่างๆ แต่ที่นายกอร์ปศักดิ์ ระบุว่าการเจรจาล่มเกิดจากคนที่ดูไบส่งสัญญาณมานั้น ยืนยันได้ว่าไม่เคยได้ยินจากปาก พ.ต.ท.ทักษิณ แม้ช่วงชุมนุมมีโอกาสคุยทางโทรศัพท์กับพ.ต.ท.ทักษิณบ้าง แต่เป็นแค่ความห่วงใยต่อประชาชนที่มาชุมนุม ไม่เคยออกเป็นคำสั่งหรือให้ทำการอย่างหนึ่งอย่างใด
แต่มีคำพูดหนึ่งคำหลังจากเจรจากับตัวแทนรัฐบาลไม่สำเร็จ ตนได้ประสานไปยัง พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช ส.ว.สรรหาในขณะนั้นให้นัดหมายวันที่ 19 พ.ค.53 เพื่อจะไปเจรจากับรัฐบาลอีกครั้งโดยที่มีนายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภาในขณะนั้น เป็นคนกลาง แต่เหตุการณ์กลับไม่เป็นเช่นนั้น
"วันนั้นควรเป็นวันเจรจา ไม่ใช่วันสังหาร เป็นวันที่เลือดประชาชนควรหยุดไหล ไม่ใช่เพิ่มการเสียชีวิต แต่พอถึงเวลาดังกล่าวมีข่าวว่าทหารได้เคลื่อนกำลังออกมาแล้ว ผมจึงประสานไปยังส.ว.อีกครั้ง แต่ได้รับคำตอบกลับมาว่า "มันสายไปแล้ว" อยากถามว่าคำพูดนี้เป็นของรัฐบาลใช่หรือไม่ รัฐบาลมองประชาชนเป็นเหยื่อที่ปิดล้อมแล้วต้องขย้ำใช่หรือไม่"นายณัฐวุฒิ กล่าว
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคได้รับการข่าวจากเจ้าหน้าที่หน่วยความมั่นคงว่าอาจจะมีการสร้างสถานการณ์ ก่อความวุ่นวายเกิดขึ้น ในช่วงที่พรรคประชาธิปัตย์เตรียมเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ที่แยกราชประสงค์วันที่ 23 มิ.ย. ดังนั้นขอให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงทั้งตำรวจ ทหาร ป้องกันไม่ให้มีเหตุการณ์ความวุ่นวายเกิดขึ้น โดยที่จะมีบางหน่วยงานฉวยประกาศ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินเพื่อควบคุมเหตุการณ์ ซึ่งอาจทำให้การเลือกตั้งมีปัญหาได้