นายพิชัย นริพทะพันธุ์ คณะทำงานเศรษฐกิจ พรรคเพื่อไทย อดีต รมช. คลัง กล่าวว่า ช่วงโค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้งนี้ได้มีความพยายามที่จะโจมตีนโยบายเศรษฐกิจของพรรคเพื่อไทยเหมือนเป็นขบวนการที่ทำให้ความนิยมพรรคเพื่อไทยลดลง ดังนั้นพรรคขอยืนยันว่านโยบายของพรรคผ่านการกลั่นกรองทางความคิดในทุกมิติอย่างดีแล้ว และสามารถทำได้จริง
ผู้ที่ออกมาวิจารณ์ควรศึกษารายละเอียดให้ชัดเจนก่อน โดยสามารถสอบถามมาที่ตนได้ อย่าได้พยายามบิดเบือนข้อมูลและตัวเลขทำให้ประชาชนสับสน เช่น โครงการรับจำนำ พร้อมเครดิตการ์ดชาวนา เป็นโครงการรับจำนำระบบใหม่ที่ไม่เหมือนเดิม เพราะมีระบบสาระสนเทศ ไอที และ ระบบลงทะเบียนเข้ามาใช้ เป็นการนำส่วนดีของระบบจำนำเดิม และส่วนดีของระบบประกันรายได้เข้ามารวมกัน แก้ไขปัญหาสต็อกลมโดยสามารถตรวจสอบลงไปถึงรายละเอียดชาวนาผู้ขายแต่ละรายได้ ดังนั้นโรงสีที่กักตุนข้าวตอนนี้ไม่สามารถจะนำข้าวมาจำนำได้ เพราะต้องจำนำตามระบบเครดิตการ์ดชาวนาที่ระบุผลผลิตตามจำนวนไร่อย่างชัดเจน
อีกทั้งการจะนำข้าวจากประเทศเพื่อนบ้านมาสวมสิทธิ์ก็ทำไม่ได้เช่นกัน เพราะไม่อยู่ในข้อมูลบัตรเครดิตการ์ดชาวนา อีกทั้งยังแก้ปัญหาการลงทะเบียนผีเพื่อมารับเงินฟรีๆ ของระบบประกันรายได้ปัจจุบันที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก เพราะต้องมีการส่งมอบข้าวที่ผลิตจริง และที่ดีที่สุดคือมีการเข้าไปจัดการปริมาณข้าวในประเทศ (ซัพพลาย) ซึ่งจะสามารถทำให้ราคาข้าวขึ้นได้ ซึ่งเป็นจุดเสียของการประกันรายได้ที่ไม่มีการควบคุมซัพพลาย โดยเมื่อคุมปริมาณข้าวได้ก็จะสามารถเจรจากับผู้ผลิตประเทศอื่น เช่น เวียดนาม อินเดีย ในการกำหนดราคาตลาดโลก
"แค่ข่าวว่าพรรคเพื่อไทยจะชนะการเลือกตั้ง ราคาข้าวได้เพิ่มทันที 10% และยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบันราคาเกือบหมื่นบาทแล้ว แสดงว่าประเทศไทยมีส่วนสามารถกำหนดราคาข้าวได้ ไม่ใช่ตลาดโลกกำหนดราคาเหมือนที่พรรคประชาธิปัตย์คิด"นายพิชัย กล่าว
นอกจากนี้ เมื่อทำให้ราคาข้าวปรับขึ้นมาแล้วและมีปริมาณข้าวในสต็อกเหลือก็สามารถนำไปบาร์เตอร์เทรดแลกกับโครงการเมกกะโปรเจคท์ที่พรรคเพื่อไทยมีนโยบายหลายโครงการ โดยหลายประเทศในโลก เช่น ประเทศจีน เริ่มที่จะมีนโยบายสะสมอาหารพร้อมกับพลังงาน ในส่วนของการสะสมความมั่งคั่งของประเทศด้วย เพราะเห็นว่าราคาอาหาร ซึ่งรวมถึงข้าวจะมีราคาเพิ่มขึ้นมากในอนาคต และ พรรคเพื่อไทยก็มีวิสัยทัศน์เช่นนั้น จึงต้องบริหารจัดการเรื่องข้าวให้มีประสิทธิภาพตั้งแต่ตอนนี้
ระบบเครดิตการ์ดชาวนาไม่ใช่เรื่องใหม่เพราะประเทศอินเดียทำแล้วและประสพความสำเร็จอย่างมาก ระบบจำนำใหม่พร้อมบัตรเครดิตการ์ดชาวนานี้จะช่วยชาวนาได้อย่างแท้จริง แต่ผู้ที่ไม่เห็นด้วยส่วนใหญ่จะเป็นพ่อค้าคนกลาง และ ผู้ที่ได้ประโยชน์จากการเอาเปรียบชาวนา
ส่วนนโยบายหนึ่งนักเรียนหนึ่งแทบเล็ดนั้นไม่ได้ใช้ 5 หมื่นล้านบาทอย่างที่ถูกโจมตี แต่ใช้เงินไม่ถึง 5,000 ล้านบาท เพราะเป็นการซื้อจากผู้ผลิตในจีนหรืออินเดียที่ราคาเพียง 5-6,000 บาท/เครื่อง และแจกเพียง 800,000 เครื่องสำหรับนักเรียนชั้น ป.1 เท่านั้น ซึ่งพ่อแม่ที่อายุยังไม่มากจะได้ร่วมเรียนรู้การใช้ไปพร้อมกับลูกด้วย
ส่วนการสร้างเขื่อนกั้นน้ำพร้อมถมที่ทะเลเพื่อสร้างเมืองใหม่นั้นเป็นความจำเป็นในการป้องกันน้ำท่วมในอนาคต อีกทั้งสร้างจุดขยายการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจให้กับประเทศ มีตัวอย่างคือ เมืองอัมสเตอร์ดัม ได้ทำสำเร็จมาแล้ว และโครงการนี้จะมีกำไรในการดำเนินการจากการนำที่ดินเมืองใหม่ออกมาประมูลขาย ดังนั้น จะมีการพิจารณาให้เอกชนเข้ามาร่วมทุนดำเนินการในเรื่องนี้
"อยากให้นักวิชาการและผู้ที่ยังไม่ได้ข้อมูลเพียงพอสามารถติดต่อผมหรือทางพรรคเพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติมก่อนที่จะออกมาวิจารณ์ด้วยความไม่รู้ และอย่าได้คิดไปเอง เพราะจะตกเป็นเครื่องมือของคู่แข่ง และจะทำให้ประชาชนสับสน พรรคเพื่อไทยเชื่อว่าหากพรรคได้รับการไว้วางใจจากประชาชน พรรคจะทำได้ในทุกนโยบายให้ประชาชนได้ประโยชน์อย่างเต็มที่"นายพิชัย กล่าว