นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) เปิดเผยว่า ทางพันธมิตรฯและคณะกรรมการป้องกันราชอาณาจักรไทย ได้ส่ง นายเทพมนตรี ลิมปพยอม นักวิชาการอิสระ และกรรมการป้องกันราชอาณาจักรไทย เข้าร่วมสังเกตการณ์การประชุมที่ประเทศฝรั่งเศส โดยได้มีบทบาทในการเจรจาและกดดันให้คณะผู้แทนไทยแก้ไขปัญหาต่างๆ โดยนายเทพมนตรีได้แจ้งข่าวมาว่า มีกระบวนการบางอย่างที่ยอมทุกวิถีทางขอให้เลื่อนการพิจารณาแผนบริหารจัดการมรดกโลกปราสาทพระวิหารออกไป โดยการทำร่างมติระหว่างฝ่ายไทยกับกัมพูชาขึ้นมาเพื่อต้องการให้พ้นจากรัฐบาลชุดนี้ โดยยอมลงนามในเอกสารใดก็ได้ที่จะมีผลผูกพันธ์ถลำลึกไปไกลกว่าเดิมในอนาคต เหมือนเมื่อครั้งไปลงนามในร่างประนีประนอมเมื่อการประชุมปีที่แล้ว ต้องถือว่าสถานการณ์ตอนนี้ล่อแหลมและอันตรายอย่างยิ่ง
ล่าสุดนายเทพมนตรีแจ้งว่า ได้มีข้อเสนอจากฝ่ายกัมพูชามาทั้งหมด 8 ข้อสำหรับให้ฝ่ายไทย ซึ่งทั้ง 8 ข้อเป็นสิ่งที่ฝ่ายไทยต้องไม่ยอมรับโดยเด็ดขาด ยกตัวอย่างข้อที่ 5 ซึ่งกัมพูชาเสนอว่าฝ่ายไทยเป็นฝ่ายยิงก่อนและทำให้ปราสาทพระวิหารเสียหายอย่างหนัก หรือข้อที่ 6 กล่าวร้ายประเทศไทยว่าทำผิดอนุสัญญาปี 1972 ที่ระบุว่าต้องปกป้องมรดกทางวัฒนธรรม และข้อ 7 ขอให้ไทยยอมให้กัมพูชาส่งผู้สังเกตการณ์เข้าพื้นที่ไปบูรณะปราสาทพระวิหาร
ทั้งหมดนี้ขอย้ำว่า เป็นสิ่งที่รับไม่ได้ เพราะเป็นการกล่าวร้ายประเทศไทย และต้องการนำผู้สังเกตการณ์เข้ามาเพื่อเป็นโล่ห์กำบังไม่ให้ทหารไทยขับไล่ทหารกัมพูชาออกจากแผ่นดินไทย ถือเป็นแทคติกทางการเมืองระหว่างประเทศ
“ฝ่ายไทยไม่สมควรยอมรับในกรณีนี้ จะไปลงนามเพื่อขอให้เลื่อนการพิจารณาเพื่อเอาหน้าให้แก่รัฐบาลชุดนี้ไม่ได้ หากลงนามต้องถือว่ามีเจตนาตั้งใจให้ไทยต้องเสียดินแดนในรัฐบาลชุดหน้า และเมื่อเอกสารมีผลผูกพันต่อการเปลี่ยนแปลงในอนาคตนั้น ต้องผ่านการเห็นชอบจากที่ประชุมรัฐสภาและความเห็นของประชาชนตามรัฐธรรมนูญมาตรา 190 ดังนั้นการกระทำที่เกินกว่าอำนาจของนายสุวิทย์ และทำให้ประเทศต้องถลำลึกต่อไป ภาคประชาชนต้องดำเนินคดีต่อนายสุวิทย์อย่างแน่นอน เมื่อมาถึงตอนนี้เท่ากับว่าความพยายามในการเลื่อนการพิจารณาออกไปของรัฐบาลต้องถือว่าล้มเหลวแล้ว จึงเหลือหนทางเดียวคือถอนตัวออกจากภาคีอนุสัญญามรดกโลกตามคำร้องขอของพันธมิตรฯและคณะกรรมการป้องกันราชอาณาจักรไทยโดยทันที"นายปานเทพ กล่าว
โฆษกพันธมิตรฯ กล่าวว่า รัฐบาลไทยอาจจะลังเลและยอมรับให้มีการส่งทีมสังเกตการณ์เข้ามาในพื้นที่ เพื่อแลกกับการเลื่อนการพิจารณาแผนบริหารจัดการปราสาทพระวิหารออกไป ซึ่งส่งผลให้ฝ่ายไทยไม่สามารถผลักดันกัมพูชาออกจากแผ่นดินไทยได้เลย จึงขอจับตาในช่วงนี้
ขณะที่ นายประพันธ์ คูณมี โฆษกคณะกรรมการป้องกันราชอาณาจักรไทย กล่าวว่า ขณะนี้มีการตระเตรียมซ่องสุมกำลังเข้ามาในพื้นที่จำนวนมาก แนวโน้มที่จะเกิดการปะทะอย่างรุนแรงมีสูง โดยตนเชื่อว่ากองทัพไทยก็จะไม่ยอมให้ฝ่ายกัมพูชาเข้ามายึดครองแผ่นดินไทย โดยอ้างมติของคณะกรรมการมรดกโลกหรือศาลโลกอย่างแน่นอน สถานการณ์ตามแนวชายแดนจึงไว้วางใจไม่ได้
อย่างไรก็ตาม ภาคประชาชนจะคอยติดตามเรื่องนี้แม้ว่าผลการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกจะผ่านพ้นไปในวันที่ 29 มิ.ย.นี้แล้วก็ตาม โดยจะดำเนินการเรื่องนี้ในเวลาที่เหมาะสมอีกครั้งภายหลังจากการเลือกตั้ง
ด้าน พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรฯ ได้กล่าวสนับสนุนให้รัฐบาลไทยตัดสินใจถอนตัวออกจากอนุสัญญาภาคีมรดกโลกทันที หากไม่ทำเช่นนี้จะทำให้ประเทศไทยต้องสูญเสียดินแดนกว่า 1.8 ล้านไร่ รวมไปถึงทรัพยากรทางทะเลอีกมหาศาลกว่า 5 ล้านล้านบาท และประชาชนต้องได้รับความเดือดร้อนอีกมากมาย ที่ผ่านมารัฐบาลไทยถือว่าโชคดีที่มีประชาชนออกมาชุมนุมอย่างเหนียวแน่นถึง 150 วัน 5 เดือนเต็มแล้ว สามารถนำไปอ้างในที่ประชุมนานาชาติได้ แต่รัฐบาลไม่ทำ หนำซ้ำยังมาหาเรื่องภาคประชาชนเสียอีก