นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) ขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่บริเวณลานหน้าห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ย่านราชประสงค์ โดยเน้นการชี้แจงเหตุการณ์การสลายการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.)หรือคนเสื้อแดงที่เกิดขึ้นในช่วง เม.ย.-พ.ค.53 หลังจากมีขบวนการใส่ร้ายป้ายสีกล่าวหาบิดเบือนว่า"นายกฯ อภิสิทธิ์ สั่งฆ่าประชาชน" ทั้งนี้เพื่อให้ประชาชนประกอบการตัดสินใจในการลงคะแนนเลือกตั้งวันที่ 3 ก.ค.
"เมื่อวันที่ 18 มิ.ย.นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เขียนข้อความลงเว็บไซต์กล่าวหาว่า นายกฯ สั่งฆ่าประชาชน และเป็นนายกรัฐมนตรีที่ทำให้คนตายจากต่อสู้ทางการเมืองมากที่สุด ซึ่งผมขอยืนยันใกล้สถานที่เกิดเหตุว่าเมื่อวันที่ 19 พ.ค.53 ไม่มีคนตายเลย ไม่มีการปราบปรามฝูงชนที่แยกราชประสงค์"นายสุเทพ กล่าว
การปราศรัยของนายสุเทพอธิบายเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นระหว่างการชุมนุม พร้อมกับนำคลิปวิดีโอมาฉายประกอบ โดยนายสุเทพระบุว่าผู้ที่ฆ่าประชาชนเป็นฝีมือของ"คนชุดดำ"ที่ติดอาวุธสงครามแฝงตัวเข้ามาปะปนมากับกลุ่มผู้ชุมนุม หลังจากก่อเหตุแล้วส่วนหนึ่งก็หลบหนีไป และส่วนหนึ่งถอดชุดดำมาทำหน้าที่เป็นการ์ด นปช.ปล้นอาวุธของเจ้าหน้าที่เพื่อไปก่อเหตุความรุนแรงต่างๆ หลังจากวันดังกล่าว
นายสุเทพ กล่าวว่า เหตุการณ์ที่มีผู้เสียชีวิตจากการชุมนุมครั้งแรกเกิดขึ้นในวันที่ 10 เม.ย.จำนวน 26 ราย เป็นทหาร 20 นาย กลุ่ม นปช.5 คน และผู้สื่อข่าว 1 คน เป็นฝีมือกลุ่มคนเสื้อดำที่แฝงเข้ามาก่อเหตุใช้อาวุธสงครามทำลายเพื่อให้ต่างฝ่ายเข้าใจผิดแล้วเข้าห้ำหั่นกัน มีการใช้รถยนต์ขนคนเข้ามาปฏิบัติการในพื้นที่และขนคนกลับออกไปด้วย ซึ่งกล้อง CCTV ของ กทม.จับภาพไว้ได้ และหลังเกิดเหตุกรมสอบสวนคดีพิเศษ(DSI)จับกุมผู้ต้องหา 3 รายพร้อมรถยนต์และอาวุธสงครามจำนวนมากที่ซ.อ่อนนุช ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินคดี
"พื้นที่ชุมนุมมีการ์ด นปช.คุ้มกันหนาแน่น ไม่มีใครเข้าไปในพื้นที่ได้ แต่ทำไมคนชุดดำจึงเข้าไปในพื้นที่ชุมนุมได้ โดยไม่มีใครขัดขวาง"นายสุเทพ กล่าวบนเวทีปราศรัย
นายสุเทพ กล่าวว่า รู้สึกเสียใจต่อการเสียชีวิตของบุคคลเหล่านี้ ไม่ใช่เฉพาะตำรวจหรือทหาร รวมถึงประชาชนด้วย เพราะมีหลักฐานชายชุดดำสุ่มอยู่บนที่สูงแล้วใช้อาวุธปืนและแสงเลเซอร์ยิงใส่ฝูงชน เช่น กรณีที่มีชายถูกยิงกลางสี่แยกคอกวัว โดยมีวิถีกระสุนจากชายชุดดำ ไม่ได้มาจากฝั่งทหาร ซึ่งยังมีผู้สื่อข่าวต่างประเทศ และผู้ชุมนุมคนอื่นๆ ถูกยิงเสียชีวิตด้วย
"ผมไม่ได้มากล่าวหา มาปรักปรำ เพราะวันข้างหน้าคนเหล่านี้ต้องไปต่อสู้คดีในศาล...รัฐบาลเสียใจทุกครั้งที่มีคนตาย พยายามอดทนอดกลั้นใช้มาตรการต่างๆ เพื่อไม่ให้มีคนเจ็บคนตาย" นายสุเทพ กล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
พร้อมทั้งระบุว่าเห็นใจและเข้าใจนายกรัฐมนตรีในช่วงเวลาดังกล่าว และเกรงว่านายกรัฐมนตรีจะลาออกหรือยุบสภา แต่นายกรัฐมนตรีกลับพยายามกล้ำกลืนอดทนถูกคนประณามว่าฆ่าประชาชน เพราะหากประกาศลาออกหรือยุบสภาวันนั้นบ้านเมืองต้องยับเยินเพราะเชื่อว่าแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงจะไม่ล้มเลิกการชุมนุมจนกว่านายใหญ่จะไม่ต้องติดคุก และได้เงิน 4.6 หมื่นล้านบาทคืน
นายสุเทพ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 3 พ.ค.53 นายกรัฐมนตรีได้นำเสนอแผนปรองดองให้กับกลุ่ม นปช.เพื่อให้บ้านเมืองกลับคืนสู่ภาวะปกติ โดยขอเวลา 6 เดือนเพื่อจัดเตรียมมาตรการรองรับ แต่มีการยื่นเงื่อนไขให้มีการดำเนินคดีตนเองทันที แต่ในที่สุดก็ยังไม่ได้ยุติการชุมนุมกลับยกระดับการชุมนุมให้รุนแรงมากขึ้น โดยมีการใช้ระเบิดเอ็ม 79 ยิงใส่สถานที่ราชการ การยกขบวนไปข่มขู่สถานที่ราชการ การตั้งด่านเถื่อนคุกคามประชาชน และการบุกเข้าไปในโรงพยาบาลจุฬาฯ
นายสุเทพ กล่าวว่า กลุ่ม นปช.ประกาศบุกยึดถนนสีลม และมีการยิงระเบิดเอ็ม 79 เข้าไปในพื้นที่ดังกล่าวจนทำให้มีประชาชนเสียชีวิต และในวันต่อๆ มาก็มีตำรวจและประชาชนเสียชีวิตอีกหลายคน รวมถึงการเสียชีวิตของ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ตนเองตั้งข้อสงสัยเรื่องนี้เพราะเกิดขึ้นหลังแกนนำเกิดความขัดแย้งกันเอง เชื่อว่าคนที่ทำต้องการให้เป็นข่าวไปทั่วโลกเพื่อดิสเครดิตรัฐบาล
นายสุเทพ กล่าวว่า ในฐานะผู้อำนวยการ ศอฉ.ในขณะนั้นได้สั่งการให้ตั้งด่านรอบพื้นที่ชุมนุมทั้ง 4 ด้าน เพื่อสกัดไม่ให้คนชุดดำก่อเหตุหรือะดมผู้ชุมนุมเพิ่มเติม ซึ่งกองกำลังนปช.เข้าโจมตีด่าน จนท.ช่วงค่ำวันที่ 14-17 ก.พ.53 ทำให้มีผู้เสียชีวิตอีก 42 ราย จากนั้นวันที่ 19 พ.ค.53 เริ่มปฏิบัติการกระชับพื้นที่ด้านสวนลุมฯ และ รพ.จุฬาฯ ขณะที่กลุ่ม นปช.ใช้อาวุธสงครามยิงสกัดเจ้าหน้าที่ ซึ่งมีผู้เสียชีวิตอีก 4 คน ในที่สุดแกนนำ นปช.ประกาศยุติการชุมนุม โดยไม่มีกำลังทหารเข้ามาในพื้นที่ลย แต่มี นปช.เสียชีวิตที่หน้า รพ.จุฬาฯ 2 คน ในห้างเซ็นทรัล 1 คน และในวัดปทุมวนารามอีก 6 คน
"วันที่ 19 พฤษภาฯ ไม่มีคนตายที่แยกราชประสงค์ แต่ตายที่อื่น" นายสุเทพ กล่าว
นายสุเทพ กล่าวว่า ดีใจได้ไม่นานก็เกิดเหตุการณ์บุกเผาสถานที่ต่างๆ หลายแห่งทั่วกรุงเทพฯ จากการปลุกระดมกันไว้ล่วงหน้า แต่กลับถูกกล่าวหาว่าเป็นคนสั่งการให้ทหารไปเผาสถานที่ต่างๆ ทั้งๆ ที่มีหลักฐานชัดเจน ซึ่ง DSI ได้ทำสำนวนส่งให้อัยการฟ้องผู้ต้องหาต่อศาลรวม 26 คน นอกจากนี้ยังมีการจับกุมมือยิงระเบิดเอ็ม 79 อีกหลายคน
"ผมต้องการร้องขอความยุติให้นายกฯ อภิสิทธิ์ ขอความยุติธรรมให้กองทัพของประชาชน...ผมพร้อมที่จะสู้คดี ไม่หนีไปต่างประเทศเหมือนทักษิณ" นายสุเทพ กล่าว
โดยช่วงท้ายสุด นายสุเทพ กล่าวว่า ขณะนี้มาถึงช่วงโค้งสุดท้ายของการเลือกตั้งแล้ว ขอให้ประชาชนช่วยสื่อสารต่อๆ กันไปว่ารายชื่อ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อของพรรคเพื่อไทยมีกลุ่มผู้ก่อการร้ายอยู่ถึง 22 คน หากเลือกเข้าไปอาจจะทำให้คนกลุ่มนี้เข้ามาเป็นรัฐมนตรีบริหารประเทศ