เลือกตั้ง'54:"จตุพร"เขียน จม.เปิดผนึกด้วยลายมือโต้เฟซบุ๊ค"อภิสิทธิ์"

ข่าวการเมือง Friday June 24, 2011 10:36 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายจตุพร พรหมพันธุ์ ผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย(พท.) ในฐานะแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) ซึ่งถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำเขียนจดหมายเปิดผนึกด้วยลายมือถึงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ในฐานะรักษาการนายกรัฐมนตรี ใจความว่า "ผมนายจตุพร ผู้ถูกคุมขังจากการกล่าวหาของเจ้าหน้าที่รัฐในความผิดฐานก่อการร้าย ได้มีโอกาสรับทราบบันทึกของนายอภิสิทธิ์เรื่อง "จากใจนายอภิสิทธิ์ถึงคนไทยทั้งประเทศ" รวม 5 ตอนที่เผยแพร่ทางเฟซบุ๊ค ตลอดจนคำสัมภาษณ์ คำปราศรัยหาเสียงของนายอภิสิทธิ์ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โดยกล่าวถึงเรื่องการสลายการชุมนุมของประชาชน "แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ" ทั้งบริเวณสี่แยกคอกวัวและสี่แยกราชประสงค์ มีผู้เสียชีวิตจำนวน 91 ศพ บาดเจ็บ 2,000 กว่าคน และในวันที่ 23 มิ.ย. นายอภิสิทธิ์และพรรคประชาธิปัตย์จะไปปราศรัยที่ราชประสงค์นั้น

พฤติกรรมของนายอภิสิทธิ์ในช่วงระยะเวลานี้ นายอภิสิทธิ์คงลืมฐานะรักษาการนายกรัฐมนตรี และความเป็นนายกรัฐมนตรีก่อนการยุบสภา เพราะความเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ของนายอภิสิทธิ์ในเวลานี้ นายอภิสิทธิ์คงคิดแต่เพียงอย่างเดียวว่าทำอย่างไร "พรรคประชาธิปัตย์จะชนะการเลือกตั้ง" เท่านั้น

แต่หากนายอภิสิทธิ์ไม่ลืมฐานะรักษาการนายกรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์คงไม่พูดในลักษณะยัดเยียดข้อหาเผาบ้านเผาเมือง หรือข้อหาก่อการร้ายให้กับใคร หรือพรรคการเมืองใด เพราะในฐานะนายกรัฐมนตรีหรือรักษาการนายกรัฐมนตรีในเวลานี้ ซึ่งเป็นหัวหน้าฝ่ายบริหารไม่ควรชี้นำกระบวนการยุติธรรมในชั้นศาล อีกทั้งรัฐธรรมนูญก็คุ้มครองว่า "ก่อนมีคำพิพากษาอันถึงที่สุดแสดงว่า บุคคลใดได้กระทำความผิด จะปฏิบัติต่อบุคคลนั้นเสมือนเป็นผู้กระทำความผิดมิได้" นายอภิสิทธิ์คิดเช่นนี้ นายอภิสิทธิ์ในฐานะนายกรัฐมนตรีคงไม่เผยแพร่เฟซบุ๊คกล่าวหาใคร และนายอภิสิทธิ์ต้องบอกกับพรรคประชาธิปัตย์ไม่ให้มาเปิดปราศรัยใหญ่ที่แยกราชประสงค์

แต่เพราะเหตุที่นายอภิสิทธิ์มุ่งชนะการเลือกตั้งในฐานะที่เป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์จึงไม่สนใจ ไม่นำพาต่อตำแหน่งรักษาการนายกรัฐมนตรี และไม่สนใจต่อคำพูดของตนเมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2551 ที่กล่าวหานายกรัฐมนตรีในอดีตท่านหนึ่งว่า "ผมไม่นึกไม่ฝันว่า เรามีรัฐ ที่ได้ทำร้ายประชาชนถึงขั้นเสียชีวิต บาดเจ็บสาหัส แล้วยังมีรัฐที่พยายามยัดเยียดความผิดกลับไปให้ประชาชนอีก เป็นพฤติกรรมที่รับไม่ได้ครับ บัดนี้ เขาสูญเสียไปแล้ว นายกฯ ไปยัดเยียดข้อหาใส่เขาอีก พฤติกรรมอย่างนี้ไม่มีทางนำพามาซึ่งความสมานฉันท์ ความปรองดอง"

ถามว่าการที่นายอภิสิทธิ์ไปยืนพูดปราศรัยที่สี่แยกราชประสงค์ในวันที่ 23 มิถุนายน นายอภิสิทธิ์คงมิใช่คนที่เป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย เพราะหากนายอภิสิทธิ์สำนึกว่าตนเป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศไทยแล้ว นายอภิสิทธิ์ก็จะต้องสำนึกถึงคำพูดของตนที่เคยกล่าวหาอดีตนายกรัฐมนตรีคนอื่น โดยเฉพาะคำพูดของตนที่ว่า "บัดนี้เขาสูญเสียไปแล้ว นายกฯ ไปยัดเยียดข้อหาใส่เขาอีก" และอยากจะถามว่า การที่นายอภิสิทธิ์ไปยืนปราศรัยยัดเยียดข้อหาให้กับผู้สูญเสีย แล้วนายอภิสิทธิ์โชคดีได้เป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง ถามว่านายอภิสิทธิ์จะนำพาความสมานฉันท์ ความปรองดองให้เกิดกับสังคมตามที่ตนเคยพูดไว้อย่างไร เมื่อนายอภิสิทธิ์ และพรรคประชาธิปัตย์ ตัดสินใจที่จะเลือกปราศรัยที่สี่แยกราชประสงค์ ผมก็มีคำถามถึงนายอภิสิทธิ์ ในฐานะรักษาการนายกรัฐมนตรี(ซึ่งนายอภิสิทธิ์คงลืมไปแล้วในเวลานี้) มิใช่ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ดังนี้

1. "ใครฆ่าประชาชน"

(1) ชายชุดดำที่นายอภิสิทธิ์กล่าวอ้างตลอดระยะเวลา 1 ปีเศษ นับแต่เกิดเหตุ เป็นใคร ทำไมถึงจับกุมไม่ได้ และในเวลาที่อ้างชายชุดดำเป็นผู้ก่อการร้าย มีทหารจำนวนมาก แต่ทำไมสามารถจับกุมชายชุดดำ ผู้ก่อการร้ายไม่ได้แม้แต่คนเดียว

(2) การฆาตกรรมหมู่ที่วัดปทุมวนารามจำนวน 6 ศพ "เขตอภัยทานของวัด" ทำไมทั้งคุณ และนายสุเทพ ได้ตอบอภิปรายในสภาอันทรงเกียรติไม่ยอมรับว่า ในวันที่ 19 พฤษภาคม 2553 หลังจากเวลา 18.30 น. แล้วไม่มีเจ้าหน้าที่ทหารอยู่บนรางรถไฟบีทีเอสอย่างแน่นอนและเด็ดขาด ข้างล่างก็ถอน ข้างบนก็ถอน ไปตั้งหลักอยู่ที่สถานีรถไฟฟ้าสยาม และยืนยันว่าการปะทะอยู่ที่มุมซ้าย ไม่ใช่ที่หน้าประตูวัด" รายละเอียดปรากฏตามบันทึกรายงานการประชุมสภาฯ หน้า 251-253 และนายสุเทพยังอ้างตอบอภิปรายว่า "สงสัยว่ายิงกันเอง" รายละเอียดปากฏตามรายงานการประชุมสภาฯ หน้า 257 ส่วนตัวคุณเองยังอ้างอีกว่า เป็นการยิงจากแนวราบไม่ใช่เป็นการยิงจากที่สูง คำพูดของคุณในฐานะนายกรัฐมนตรีและนายสุเทพในฐานะรองนายกรัฐมนตรีที่ตอบญัตติการอภิปรายไม่ไว้วางใจในรัฐสภาอันทรงเกียรติแตกต่างกับคำพูดหรือคำให้การของทหารกองพันรบพิเศษที่ 1 กรมรบพิเศษที่ 3 ลพบุรี ได้แก่ 1.จ.ส.อ.สมยศ ร่มจำปา 2.ส.อ.เดชากร มาขุนทศ 3.ส.อ.ภัทรนนท์ มีแสง 4.ส.อ.สุนทร จันทร์งาม 5.ส.อ.ชัยวิชิต สิทธิวงษา 6.ส.อ.เกรียงศักดิ์ สีบุ 7.ส.อ.วิฑูรย์ อินทำ แม้จะเป็นนายทหารชั้นประทวนก็ยังกล้ารับว่าในวันที่ 19 พฤษภาคม 2553 พวกตนปฏิบัติหน้าที่บริเวณวัดปทุมวนารามขึ้นปฏิบัติการบนรางรถไฟฟ้าตั้งแต่สถานีสนามกีฬาไปยังสถานีสยาม โดยมี พ.ต.นิมิตร วีระพงศ์ เป็นหัวหน้าภารกิจป้องกันหน่วยทหาร ร.31 พัน 2 รอ. ที่ปฏิบัติหน้าที่บริเวณวัดปทุมวนาราม จึงถามว่าคำพูดของพวกคุณกับนายสุเทพที่ปฏิเสธว่า ในวันที่ 19 พฤษภาคม 2553 ไม่มีเจ้าหน้าที่ทหารบนรางรถไฟฟ้านั้น จะให้เลือกเชื่อพวกคุณ หรือทหารดังกล่าวที่ให้การไว้ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ

(3) หลักฐานสำคัญที่กรมสอบสวนคดีพิเศษได้รวบรวมมา ได้แก่

3.1 การที่กองพันรบพิเศษที่ 1 กรมรบพิเศษที่ 3 ลพบุรี มาปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่งของ ศอฉ. ที่นายอภิสิทธิ์ตั้งขึ้น โดยมีนายสุเทพฯ เป็น ผอ.ศอฉ. ร่วมกับ พล.อ.อนุพงษ์ฯ และ พล.อ.ประยุทธ์ฯ คือ คำสั่งศูนย์ปฏิบัติการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ ที่ 44/2553 เรื่องให้กำลังพลปฏิบัติภารกิจตามคำสั่งของ ศอฉ.ตั้งแต่ 8 เมษายน 2553 จนจบภารกิจ "หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ" เป็นหน่วยทหารที่ขึ้นตรงต่อกองทัพบกอย่างนี้แล้ว พล.อ.อนุพงษ์ฯ และ พล.อ.ประยุทธ์ฯ คงจะหนีความรับผิดชอบไม่พ้น ส่วนนายอภิสิทธิ์ฯ และนายสุเทพฯ ในฐานะผู้กำกับควบคุมดูแล ศอฉ. ไม่ต้องพูดถึงหนีความรับผิดชอบไม่ได้อยู่แล้ว หลักฐานที่ว่า ปรากฏตามคำสั่งศูนย์ปฏิบัติการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษที่ 44/2553 คุณจะยังปฏิเสธว่าคุณมิได้สั่งการให้ทหารมาใช้กำลังอีกหรือไม่

3.2 หลักฐานสำคัญอย่างหนึ่ง ที่ฆาตกรได้นำมาฆาตกรรมหมู่ประชาชนจำนวน 6 ศพที่วัดปทุมฯ คือ กระสุนหัวเขียว ในร่างผู้ตายหลายศพมีเศษหัวกระสุนเขียวฝังอยู่ในร่าง ซึ่ง พ.ต.นิมิตรฯได้ให้การไว้ต่อกรมสอบสนคดีพอเศษว่า กระสุนปืนของชุดปฏิบัติการที่ใช้เป็นขนาด 5.56 มม.โดยเป็นชนิด M855 โดยจะแตกต่างจากกกระสุนปืนอย่างอื่นคือ ที่บริเวณหัวกระสุนจะเป็นสีเขียว สามารถมองเห็นได้ชัด และเบิกจ่ายให้กับชุดปฏิบัติการของ พ.ต.นิมิตรฯ ด้วย โดยเบิกกระสุนปืนดังกล่าวมาจากต้นสังกัดที่ลพบุรี นอกจากนี้ในรายงานการชันสูตรพลิกศพผลการตรวจวิถีกระสุนจำนวน 3 ศพ บ่งชัดว่า เป็นการยิงจากด้านบนลงด้านล่าง ไม่เป็นไปตามที่คุณพูดว่าเป็นการยิงในแนวราบ เช่นนี้คุณจะยังปฏิเสธว่าการตายของประชาชนที่วัดปทุมวนาราม มิใช่การตายจากทหารที่มาปฏิบัติหน้าที่อีกต่อไปหรือไม่

3.3 เหตุใดการตายทั้ง 91 ศพ ไม่ผ่านกระบวนการในการทำสำนวนชันสูตรพลิกศพตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 150 ว่า "ผู้ตายคือใคร ตายที่ไหน เมื่อใดและถึงเหตุและพฤติการณ์ที่ตาย ถ้าตายโดยคนทำร้าย ให้กล่าวว่าใครเป็นเป็นผู้กระทำร้ายเท่าที่จะทราบได้" แม้แต่การตายของ พ.อ.ร่วมเกล้าฯ ก็ไม่มีการชันสูตรพลิกศพ นับแต่มีเหตุตายเป็นเวลาปีเศษแล้ว กรมสอบสวนคดีพิเศษและสำนักงานตำรวจแห่งชาติภายใต้การกำกับ ควบคุม ดูแล ของคุณและนายสุเทพฯ ก็โยนกันมาไม่สามารถส่งเรื่องให้ศาลทำการไต่สวนตามกฏหมาย ถามว่า ทำไมจึงไม่ให้ศาลไต่สวน พวกคุณกลัวอะไร ถ้าให้ผมตอบคุณคงกลัวว่า หากศาลไต่สวนแล้วเห็นว่าการตายเกิดจากการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐพวกคุณต้องรับผิดชอบใช่หรือไม่ ทุกวันนี้กรมสอบสวนคดีพิเศษและสำนักงานตำรวจแห่งชาติคงไม่กล้าทำอะไรกับพวกคุณหรอก ในทางกลับกัน เมื่อพวกคุณไม่ให้มีการชันสูตรพลิกศพและไต่สวนตามกฏหมาย ถามว่าแล้วหากคุณมีสิทธิอะไรมายัดเยียดข้อกล่าวหาว่าใครเป็นคนฆ่าใคร หลักฐานหามีไม่คนที่เสียชีวิตก็ไม่มีอาวุธอยู่ในมือ พวกคุณก็ยังยัดเยียดข้อหาให้เขาอีก มันอยู่ในหลักนิติธรรมหรือไม่

2. กรณีการวางเพลิง

การวางเพลิง โดยเผาเซ็นทรัลเวิร์ลหรือตามจุดต่างๆของประเทศไทย ขณะนี้เรื่องอยู่ในกระบวนการของศาลยุติธรรมที่จะพิจารณาพิพากษาคดีแต่ทำไมคุณและนายสุเทพฯ จึงมาพูดใส่ร้ายผู้ชุมนุมเป็นผู้เผา ทั้งๆที่คุณและนายสุเทพฯทราบบทบัญญัติรัฐธรรมนูญเป็นอย่างดีว่าก่อนมีคำพิพากษาคดีอันถึงที่สุดแสดงว่าบุคคลใดได้กระทำความผิดจะปฏิบัติต่อบุคคลนั้นเสมือนเป็นผู้กระทำความผิดมิได้ การที่พวกคุณในฐานะเป็นผู้กุมอำนาจฝ่ายกล่าวว่าหาว่าผู้ชุมนุมและพวกผมเป็นผู้ก่อให้เกิดการวางเพลิงทั้งๆที่ยังไม่มีการพิพากษาคดี พวกคุณจึงกล่าวหาเองและสรุปเองทั้งสิ้น จึงมีคำถามดังนี้

2.1 คุณในฐานะนายกรัฐมนตรีหัวหน้าฝ่ายบริหารก้าวล่วงตุลาการหรือไม่ เพราะคดีเรื่องวางเพลิง คุณในฐานะหัวหน้ารัฐบาลใช้กลไกกล่าวหาผู้ชุมนุมและพวกผม ทำไมคุณไม่ปล่อยให้ศาลพิจารณาหรือพิพากษาคดีให้ถึงที่สุดเสียก่อน หากเป็นเช่นนี้ถามว่าคุณก้าวล่วงและละเมิดต่อการพิจารณาโดยการชี้นำกระบวนการยุติธรรมใช่หรือไม่

2.2 การเผาเซ็นทรัลเวิลด์มีชายฉกรรจ์แต่งกายคล้ายทหารมีอาวุธครบมือ โดยมีระเบิดข่มขู่ใส่เจ้าหน้าที่ จนได้รับบาดเจ็บหลายคน เพื่อไล่ให้ออกจากศูนย์การค้า คนเหล่านั้นเป็นใครกล้าจับ คุณต้องตอบคำถามนี้

2.3 คุณต้องตอบคำถามของ พ.ต.ท.ชุมพล บุญประยูร เลขาธิการ สมาคมอาสาบรรเทาสาธารณภัยแห่งประเทศไทยที่กล่าวว่า "ตลอดเวลา 2 เดือนเต็ม เราได้ประสานไมตรีกับผู้ชุมมุนมาเป็นอย่างดี โดยเฉพาะพวกการ์ดแทบจะรู้จักกันทุกคน แต่ในวันเกิดเหตุเผาเซ็นทรัลเวิลด์ขอบอกว่าไม่เห็นหน้าคนเหล่านั้นเลย มีแต่พวกที่เรียกตัวเองว่า กองกำลังไม่ทราบฝ่าย กลุ่มนี้แหละที่เขาบอกว่าเป็นผู้ก่อการร้าย เป็นผู้ก่อการร้ายที่แม้แต่ตำรวจและทหารไม่กล้าแตะ ถามว่าทำไมคุณและนายสุเทพฯ ไม่สืบสวนจับกุมคนพวกนี้ คนกลุ่มนี้เข้าออกในที่เกิดเหตุโดยไม่มีใครกล้าทำอะไรพวกเขา เจ้าหน้าที่มีข้อมูลทุกอย่าง แต่ทำไมถึงจับคนร้ายไม่ได้"

2.4 เวลา 16.30 น. มีเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ถืออาวุธครบมือได้เข้าไปในเซ็นทรัลเวิลด์แต่ต้องถอยร่นเนื่องจากมีผู้บุกรุกที่แต่งกายคล้ายทหารมีทั้งอาวุธและลูกระเบิด เจ้าหน้าที่ผู้ควบคุมความปลอดภัยของเซ็นทรัลเวิลด์รายงานให้ผู้บริการทราบ แต่ทำไมกองกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งเข้ามารักษาความสงบในศูนย์การค้าต้องถอนตัวออกไปจากศูนย์การค้า และถามว่าทำไมทหารที่แยกราชประสงค์ที่มีอยู่จำนวนมากในเวลานั้นไม่เข้ามารักษาความปลอดภัยในศูนย์การค้า

2.5 ทำไมเจ้าหน้าที่รัฐ หรือ คุณ หรือ นายสุเทพฯ ที่มีหน้าที่ต้องสืบสวนสอบสวนหาความจริงจึงไม่ตรวจสอบหรือเรียกดูกล้องซีซีทีวี(CCTV) จากห้างเกษรพลาซ่า, จากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และโรงพยาบาลตำรวจ มาตรวจสอบบริเวณที่เกิดเหตุเพราะกล้องทุกตัวสามารถมองเห็นเซ็นทรัลเวิลด์ และถนนโดยรอบเซ็นทรัลเวิลด์ได้ ทำไมไม่ตรวจสอบหรือกลัวว่าตรวจสอบแล้วจะกล่าวหาผู้ชุมนุมไม่ได้ การตรวจสอบสอบนี้ รวมถึงคำถามไปยังห้างเซ็นทรัลเวิลด์ด้วยว่ากล้องซีซีทีวี (CCTV) ที่บันทึกเหตุการณ์ในอาคารของเซ็นทรัลเวิลด์ เอาไปเก็บไว้ทำไม และเหตุใดจึงไม่รักษาสิทธิของตนกลัวอะไรจะเกิดขึ้น เพราะกล้องซีซีทีวี(CCTV) จากฝั่งเกษรพลาซ่าสามารถจับภาพตอนอาคารทางเชื่อมของ เซ็นทรัลเวิลด์ ยุบถล่มอย่างต่อเนื่องและมีภาพนาทีอาคารถล่มเท่านั้นที่ปรากฏสู่สาธารณะ ถามว่าภาพก่อนหน้านั้นตั้งแต่เช้า สาย บ่าย และเย็นของวันนั้นเกิดอะไรขึ้น จึงไม่อาจปรากฏสู่สาธารณะชน ทำไมความจริงในบางขณะเวลาจึงหายไปหรือมีอะไรอยู่ในภาพเคลื่อนไหวเหล่านั้นที่สามารถบ่งบอกชี้วัดได้ว่า ใครเป็นผู้เผาเซ็นทรัลเวิลด์ พวกคุณ และ นายสุเทพฯจึงไม่ให้เจ้าหน้าที่รัฐสอบสวน

2.6 จริงหรือที่คนเสื้อแดงถูกฆ่าตายเพราะไปเผาบ้านเผาเมือง คำถามที่คุณต้องตอบคือ ทำไมคุณไม่สอบสวนว่าใครไล่เจ้าหน้าที่ตำรวจออกมา ใครไม่ให้นักดับเพลิงเข้าไปดับไฟ เพราะถ้าเป็นคนเสื้อแดงเผาจริงคงต้องถูกปราบปราม และหากจับไม่ได้ก็คงเป็นศพเกลื่อนในศูนย์การค้าแล้ว แต่นี่ไม่สามารถจับผู้วางเพลิงที่แท้จริงได้ส่วนที่ถูกดำเนินคดีอยู่ที่ศาลหาความจริงแล้วน่าจะเป็นแพะ ผมจึงถามคุณและนายสุเทพฯว่าจริงหรือไม่ที่มีการกล่าวว่า "ประเทศไทยของเราอย่าให้ใครมาเผา(แล้วห้ามเข้าไปดับ) อีก"

ผมหวังว่าแม้ในช่วงเวลานี้เป็นความยากลำบากในชีวิตของผมที่ถูกเจ้าหน้าที่รัฐภายใต้การกำกับดูแลของพวกคุณมากล่าวหาผม แต่ผมก็พร้อมที่จะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแม้ผมจะต้องถูกจองจำ ชีวิตผม ครอบครัวของผม ญาติพี่น้องและเพื่อนฝูงของผมต้องมีความลำบากในชีวิตไปพร้อมกับผม แต่ผมหวังว่าในที่สุดแล้วความจริงและความยุติธรรมในสังคม ก็หวังว่าจะเป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ซึ่งผมจะรอวันนั้นด้วยความอดทน แต่ระหว่างที่รอพวกคุณควรจะได้ตอบคำถามที่ผมถามคุณด้วย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ