นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคพลังประชาชน ระบุการเปิดเวทีปราศรัยของพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.)ที่แยกราชประสงค์เย็นวานนี้ ไม่ได้ช่วยให้คะแนนเสียงของ ปชป.กระเตื้องขึ้น เพราะเป็นเรื่องเดิมที่ประชาชนได้รู้มาก่อนหน้านี้แล้ว หนำซ้ำกลับเป็นการตอกย้ำความขัดแย้งในสังคมเพิ่มมากขึ้น
นายจาตุรนต์ เขียนข้อความลงในเฟซบุ๊คว่า ตามข่าวการปราศัยของพรรค ปชป.ที่ราชประสงค์และดูความเห็นของสำนักข่าวต่างประเทศบางแห่งก็พอเห็นแล้วว่านี่ไม่ใช่จุดพลิกผันของการหาเสียง เพราะเนื้อหาทั้งหมดที่ ปชป.นำเสนอเมื่อวานนี้เป็นเรื่องที่เคยพูดกับประชาชนมาหมดแล้ว รวมทั้งประเด็นกล่าวหาในช่วงหาเสียงครั้งนี้ แต่มีสิ่งที่เพิ่มเติมคือการพยายามทำเกิดความสะเทือนใจด้วยการเล่าว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค ร้องไห้ทั้งคืนวันที่ 10 เม.ย.53 และการร้องไห้บนเวทีของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรค
"การเสนอวาทกรรมที่ว่ามาช่วยกันถอนพิษทักษิณ ซึ่งดูแล้วไม่น่าจะเป็นประเด็นที่จุดขึ้น เพราะคนได้ทำความเข้าใจเชิงเหตุผลกันมามากแล้ว"นายจาตุรนต์ กระบุ
จุดอ่อนที่สำคัญของการปราศัยครั้งนี้ของ ปชป.อันดับแรกคือการเลือกสถานที่ที่ผิด ในเชิงสัญญลักษณ์เท่ากับต้องการท้าทาย ตอกย้ำ และยั่วยุให้เกิดความขัดแย้ง รวมทั้งทำให้เกิดความเกลียดชังระหว่างคนในชาติ ส่วนการแก้ต่างให้กับตนเองและพวกที่เพิ่มเติมขึ้นมา เช่น "ที่ราชประสงค์ไม่มีคนตาย" คนมีวิจารณญาณทั้งหลายก็ย่อมรับไม่ได้ ขณะที่ผู้บาดเจ็บและญาติผู้เสียชีวิตย่อมโกรธมากขึ้น
"การพูดแบบที่เคยพูดมาแล้วหลายครั้งว่าประชาชนและทหารถูกคนชุดดำฆ่าตายทั้งนั้น ไม่มีใครเชื่อแน่ เพราะขัดกับข้อเท็้จจริงอีกมากมายที่หลายฝ่ายนำเสนอไปแล้ว"นายจาตุรนตื กล่าว
ส่วนกรณี่ที่ระบุว่านายอภิสิทธิ์ร้องไห้ทั้งคืน ก็ไม่ทราบว่าร้องไห้ด้วยเหตุผลอะไรแน่ แต่ควรทราบด้วยว่ามีประชาชนอีกมากมายที่ร้องไห้ไปอีกนานกว่า และยังจำเป็นต้องย้ำว่าถ้าวันนั้นรัฐบาลไม่สั่งให้ยึดพี้นที่คืนให้ได้ ไม่สั่งให้นำอาวุธร้ายแรงนานาชนิด รวมทั้งรถหุ้มเกราะเข้าไปในบริวณที่ชุมนุม และไม่ดันทุรังที่จะสลายการชุมนุมให้ได้ทั้งๆ ที่มืดแล้ว ก็คงไม่มีใครต้องร้องไห้
"ต้นเหตุของความผิดพลาดของคุณอภิสิทธิ์ที่สำคัญอยู่ที่การตั้งโจทย์เริ่มต้นรับมือกับการชุมนุมเรียกร้องของประชาชนว่าคนเหล่านี้ถูกจ้างมา กะเกณฑ์มา เป็นพวกคิดร้ายทำลายชาติ เมื่อมีการเสียชีวิตแล้วก็พยายามสร้างภาพอย่างเป็นระบบว่าประชาชนเป็นพวกก่อการร้ายและล้มเจ้า"นายจาตุรนต์ ระบุ
นายจตุรนต์ เห็นว่า นายอภิสิทธิ์ได้ถลำเข้าไปสู่จุดที่ต้องแพ้กันไปข้างหนึ่งคือ ถ้าประชาชนไม่เป็นพวกก่อการร้ายและล้มเจ้า นายอภิสิทธิ์กับพวกก็ต้องเป็นฆาตกร เรื่องทั้งหมดแก้ยากมาก เพราะคู่กรณีฝ่ายหนึ่งเป็นนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลที่มีหน้าที่ต้องทำให้เกิดความยุติธรรม ยิ่งแก้ต่างให้กับตนเองมากเท่าไรก็ยิ่งทำให้การพิสูจน์ความจริงเป็นไปได้ยากเท่านั้น
น่าเสียดายที่นายอภิสิทธิ์ไม่ฟังคำทักท้วงของใครๆ และยังคงไปปราศัยที่ราชประสงค์ด้วยเนื้อหาที่แย่กว่าที่ผ่านๆ มาเสียอีกด้วย จึงยิ่งทำให้การแก้ปัญหาความขัดแย้งของคนในชาติแก้ยากยิ่งขึ้นไปอีก เพียงเพราะความต้องการให้เกิดการพลิกผันในการหาเสียงเลือกตั้ง แต่ประเมินว่าความพยายามจะพลิกกระแสของ ปชป.ครั้งนี้จะล้มเหลวในเวลาสั้นๆ คนส่วนใหญ่จะเข้าใจว่าอะไรเป็นอะไร เข้าใจว่านายอภิสิทธิ์และปชป.ทำอะไร และเมื่อเป็นที่ชัดเจนว่าการปราศรัยที่ราชประสงค์ไม่ประสบความสำเร็จดังคาดและมิหนำซ้ำยังอาจเป็นผลลบในหมู่ผู้ที่ทำงานด้านปรองดองและผู้ที่การให้บ้านเมืองเดินไปข้างหน้า ถึงเวลานั้นผู้ที่จะรู้สึกเสียดายที่สุดก็คงจะเป็นนายอภิสิทธิ์นั่นเอง
สำหรับวาทกรรม"แก้พิษทักษิณ"หรือ"ถอนพิษทักษิณ"นายจาตุรนต์ เชื่อว่าจุดไม่ติดแน่ ปัญหาของประเทศที่ต้องสูญเสียประชาธิปไตย สูญเสียระบบยุติธรรมและสูญเสียการมีรัฐบาลที่มีประสิทธิภาพ มีเสถียรภาพ เหตุสำคัญอันหนึ่งมาจากการจัดการกับ"ทักษิณ"ทำลายทักษิณ ทำให้บ้านเมืองเสียหายไปมาก และฝ่ายที่จ้องทำลายทักษิณก็เสื่อมลงไปมาก ในขณะที่ในการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นที่ชัดเจนกว่าครั้งที่แล้วเสียอีกว่าเป็นการแข่งขันกันระหว่างฝ่ายจัดการทักษิณกับฝ่ายทักษิณ ซึ่งก็หมายความว่าต่างฝ่ายต่างก็ไม่มีอะไรปิดบังอำพราง
"ผลจากโพลทั้งหลายก็กำลังบอกว่าฝ่ายที่จ้องทำลายทักษิณกำลังจะแพ้อย่างหมดรูป การมาชูประเด็นถอนพิษทักษิณจึงไม่มีทางจุดขึ้น ที่ปลุกให้คนแก้พิษทักษิณหรือถอนพิษทักษิณนั้น จึงมีเรื่องน่าคิดว่าถ้ามุขนี้แป๊กและฝ่ายทักษิณชนะถล่มทลาย พวกที่จ้องทำลายทักษิณจะสรุปกันยังไง"นายจาตุรนต์ ระบุ