นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) กล่าวถึงกรณีที่นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย แถลงว่าไม่เห็นด้วยกับการที่ไทยถอนตัวออกจากมรดกโลกว่า นายปลอดประสพยังขาดความเข้าใจเรื่องมรดกโลกหลายประการ อาทิ การถอนตัวออกจากมรดกโลกนั้นไม่ได้กระทบจากมรดกโลกที่ได้ขึ้นทะเบียนไปแล้วในอดีต ไม่ว่าจะเป็นมรดกโลกที่ไหนก็ตาม หากขึ้นทะเบียนไปแล้ว ก็ถือว่ายังคงเป็นมรดกโลกอยู่เหมือนเดิม ไม่ได้มีการถอนทะเบียนมรดกโลกในสิ่งที่เกิดขึ้นไปแล้ว
อีกประการหนึ่ง รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 190 เอาไว้ใช้สำหรับสนธิสัญญาที่มีบทเปลี่ยนแปลงอาณาเขต แต่ในทางตรงกันข้าม กรณีของมรดกโลกนั้นไม่พึงจะต้องเกี่ยวข้องกับอาณาเขตแต่ประการใด ในทางตรงกันข้ามสิ่งที่คณะกรรมการมรดกโลกนั้นพยายามจะทำก็คือการใช้เครื่องมือทางวัฒนธรรมและหวังเปลี่ยนแปลงอาณาเขตของประเทศ โดยที่นายสุวิทย์ยังไม่ได้ให้ความเห็นชอบจากรัฐสภา
ดังนั้น จึงเป็นการที่ถูกต้องแล้วที่นายสุวิทย์ถอนตัวออกจากภาคีอนุสัญญามรดกโลกล่วงหน้าก่อนที่จะมีข้อผูกพันใดๆ ที่จะมีบทเปลี่ยนแปลงอาณาเขตต่อประเทศไทย และประการสำคัญก็คือ ความเป็นมรดกโลกนั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว ประเทศไทยในหลายพื้นที่และทั่วโลก มีหลายพื้นที่ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่คนไปเยอะมาก และไม่ได้เกี่ยวข้องกับการขึ้นทะเบียนมรดกโลกเลย แม้แต่ประเทศมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกา ก็ลาออกจากภาคีอนุสัญญามรดกโลกเช่นเดียวกัน โบราณสถาน โบราณวัตถุใดๆ สภาพแวดล้อมทางวัฒนธรรม ไม่มีความจำเป็นต้องขึ้นทะเบียนมรดกโลกถึงจะมีคุณค่า
"คุณค่าของความเป็นโบราณสถาน หรือว่าพื้นที่ทางธรรมชาติจะมีคุณค่าก็เกิดขึ้นด้วยตัวมันเองไม่จำเป็นต้องให้องค์กรใดองค์กรหนึ่งเป็นคนตัดสินว่า เป็นคุณค่าของโลกหรือไม่ มันมีคุณค่าด้วยความสวยงามของตัวเอง ที่คนไทยสามารถภาคภูมิใจได้ ดีกว่าให้องค์กรนานาชาตินั้นเข้ามาประทับตรารับรอง แล้วเราต้องแลกไปด้วยกับอธิปไตยของชาติและดินแดนของชาติ" นายปานเทพกล่าว
ด้านพล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรฯ กล่าวว่า การถอนตัวออกจากมรดกโลกไม่ได้ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงดินแดนเลย ในการประกาศถอนตัวจากภาคีมรดกโลก เราไม่ได้ดินแดนอะไรเพิ่มขึ้นมา และเราก็ไม่ไดเสียดินแดนไปจากการประกาศนี้ ดังนั้นการที่นายปลอดประสพกล่าวอ้างขึ้นมาแบบลอยๆ นั้นถือเป็นการอ้างที่ไม่ถูกต้อง และเป็นการคำนึงถึงเรื่องการท่องเที่ยวมากเกินไป
"ถามว่าการที่ไปถอนตัวจากมรดกโลก ถามคนที่จังหวัดมีการท่องเที่ยวเยอะๆ หรือยัง ว่าเขาเห็นด้วยหรือเปล่า อาจจะมีผลบ้างในเรื่องนักท่องเที่ยวแต่ก็ไม่มากมายอะไรนัก สมมติว่ามีผลเต็มที่ ก็ลองมาเทียบว่าถ้าไม่ถอนตัวจากมรดกโลกซึ่งเราจะต้องเสียดินแดนแน่นอน ไปถามคนที่เขาอยู่จังหวัดชายแดนหรือเปล่า ตั้งแต่ จ.อุบลราชธานีถึง จ.ตราด 1 ล้าน 8 แสนไร่ ต้องอพยพออกจากดินแดนของตัวเอง ที่ดินของตัวเอง ซึ่งอยู่ตั้งแต่บรรพบุรุษนานนักหนาแล้ว ยกให้เขมร มันหนักหนายิ่งกว่าการสูญเสียรายได้ไปบ้างอันเนื่องจากการท่องเที่ยว เรื่องนี้ต้องคิดให้ดี" พล.ต.จำลองกล่าว