"สุรเกียรติ์"ชี้ไทยถอนตัวจากภาคีฯ มรดกโลกเป็นผลเสียมากกว่าผลดี

ข่าวการเมือง Monday June 27, 2011 17:15 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย อดีต รมว.ต่างประเทศ ชี้การที่ไทยประกาศถอนตัวออกจากการเป็นภาคีสมาชิกอนุสัญญามรดกโลกจะส่งผลเสียมากกว่าผลดี เนื่องจากที่ประชุมคณะกรรมการมรดกโลกยังเดินหน้าพิจารณาแผนบริหารจัดการพื้นที่รอบปราสาทพระวิหารที่กัมพูชาเสนอต่อไปโดยไม่มีประเด็นโต้แย้งจากไทย

"แม้ว่าไทยจะถอนตัวออกจากภาคีสมาชิกฯ การประชุมคณะกรรมการมรดกโลกเพื่อพิจารณาแผนบริหารจัดการพื้นที่รอบตัวปราสาทพระวิหารของกัมพูชาก็จะยังคงดำเนินต่อไป ที่สำคัญประเด็นที่ไทยโต้แย้งไปจะถูกตัดออก ซึ่งทำให้ไทยเสียเปรียบ เพราะไม่รู้ว่าที่ประชุมพูดเรื่องอะไรกันบ้าง และไม่สามารถโต้แย้งอะไรได้ หากไม่ถอนตัวก็จะสามารถโต้แย้งด้วยการวอล์คเอ้าท์ประท้วง หรือขอให้ที่ประชุมบันทึกคำคัดค้านไว้เป็นลายลักษณ์อักษรเพื่อเป็นข้อต่อสู้ในอนาคตได้" นายสุรเกียรติ์ กล่าวในงานเสวนาเชิงวิชาการ "องค์กรและกระบวนการปรองดองหลังการเลือกตั้ง"

นายสุรเกียรติ์ กล่าวว่า การตัดสินใจดังกล่าวอาจมีเหตุผลเรื่องการเมืองในประเทศมาเกี่ยวข้อง เพราะเป็นช่วงใกล้ช่วงเลือกตั้ง อีกทั้งสถานะของเรื่องเป็นแค่ร่างระเบียบวาระคณะกรรมการมรดกโลกยังไม่ได้มีการพิจารณาอะไร ซึ่งคณะกรรมการมรดกโลกก็ไม่มีอำนาจชี้ขาดเรื่องเขตแดน

อย่างไรก็ตาม การถอนตัวอย่างเป็นทางการยังต้องใช้เวลาอีกเป็นปี ขณะนี้เป็นแค่เพียงการแสดงเจตนารมณ์ของหัวหน้าคณะผู้แทนและหัวหน้ารัฐบาลไทย ถือว่ายังมีเวลากลับตัว เมื่อเลือกตั้งเสร็จแล้วรัฐบาลชุดใหม่ควรขอกลับเข้าไปเป็นภาคีสมาชิกอีกครั้ง พร้อมกับนำข้อมติของคณะกรรมการมรดกโลกที่กำลังจะออกมาและข้อเสนอของกัมพูชามาปรึกษาหารือในสภาฯ และผู้เชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้อง เพื่อดูว่ามีการหมกเม็ดอย่างที่คณะผู้แทนพูดหรือไม่ และเพื่อหาทางออกร่วมกันอย่างรอบคอบ

นายสุรเกียรติ์ กล่าวว่า การทำงานระหว่างประเทศต้องมีวุฒิภาวะ และต้องมียุทธศาสตร์ในระดับพหุภาคี เพราะช่วง 1 ปีที่ผ่านมาไม่ทำอะไรเลย พอเรื่องไปสู่เวทีพหุภาคีแล้วจะไปวิ่งล็อบบี้ประเทศอื่นให้สนับสนุนคงเป็นไปไม่ได้

ก่อนหน้านี้ นายสุวิทย์ คุณกิตติ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนการเจรจามรดกโลกฝ่ายไทย ยืนยันว่า การตัดสินใจถอนตัวจากภาคีสมาชิกอนุสัญญามรดกโลกจะช่วยให้ไทยสามารถปกป้องอำนาจอธิปไตยบริเวณพื้นที่พิพาทไว้ได้ เพราะไม่ต้องอยู่ภายใต้อนุสัญญามรดกโลกที่อาจมีการบังคับให้ไทยต้องทำตามร่างมติที่จะออกมา

โดยการตัดสินใจครั้งนี้ของหัวหน้าคณะผู้แทนการเจรจามรดกโลกฝ่ายไทยต่างได้รับการสนับสนุนจากนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี, นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง, พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.), นายชุมพล ศิลปอาชา รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา ตลอดจนกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ