นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) กล่าวว่า ภายหลังจากการเลือกตั้งผ่านพ้นไปแล้ว มองว่าไม่ควรจะมีใครมาขัดขวางขั้นตอนในการจัดตั้งรัฐบาล เพราะทุกคนควรเคารพกติกา พร้อมมั่นใจว่าคะแนนของพรรคประชาธิปัตย์จะมาเป็นอันดับหนึ่ง
"มันไม่ควรจะมี(ขัดขวางการตั้งรัฐบาล) ทุกคนควรต้องเคารพกติกาของประเทศ ให้การเลือกตั้งสุจริตเที่ยงธรรม สุดท้ายเมื่อเข้าสู่กระบวนการของสภา ทุกคนก็ต้องยอมรับ" นายกรัฐมนตรี กล่าว
ส่วนกรณีที่นายเสนาะ เทียนทอง ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย มั่นใจว่าพรรคเพื่อไทยจะได้ ส.ส.เกิน 300 เสียง และหากใครขัดขวางน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี รวมทั้งขัดขวางการจัดตั้งรัฐบาลของพรรคเพื่อไทย นายเสนาะ พร้อมจะเลิกเล่นการเมืองนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ถ้าได้จำนวน ส.ส.ถึง 300 เสียง คงไม่มีใครจะไปขัดขวางได้
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตลอดเวลาที่ลงพื้นที่หาเสียงช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา พรรคประชาธิปัตย์ได้รับการตอบรับที่ดีมาก ซึ่งจากการลงพื้นที่บางครั้งแม้ประชาชนอาจจะเกิดความรู้สึกอึดอัดอยู่บ้าง แต่เมื่อพรรคประชาธิปัตย์ได้แสดงจุดยืนชัดเจนจากที่ได้เห็นบนเวทีปราศรัยใหญ่ราชประสงค์แล้ว ก็ทำให้ประชาชนตอบรับดีขึ้น
ส่วนกรณีที่พรรคเพื่อไทยยังพยายามจุดประเด็นเรื่องปฏิวัติขึ้นมาอีกนั้น นายก เป็นความพยายามสร้างเงื่อนไขอยู่ตลอดเวลา มีความพยายามดึงฝ่ายนั้นฝ่ายนี้มาเป็นเงื่อนไขความขัดแย้ง แต่ทั้งนี้ยืนยันสถานการณ์ขณะนี้ไม่มีปัจจัยใดที่จะนำไปสู่การปฏิวัติได้
ส่วนที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ปราศรัยว่า รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์เปลี่ยนให้สนามการค้าเป็นสนามรบโดยเฉพาะบริเวณแนวชายแดนนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากที่พรรคประชาธิปัตย์เข้ามาเป็นรัฐบาลจะเห็นว่ามูลค่าการค้าตามแนวชายแดนเพิ่มขึ้นมาก แต่ยอมรับว่าอาจมีบางส่วนที่ยังเป็นปัญหา อย่างไรก็ดี คงต้องแยกแยะระหว่างการรักษาอธิปไตยกับเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
นายกรัฐมนตรี เชื่อว่า กัมพูชาก็จับตาดูการเลือกตั้งครั้งนี้ของไทย ซึ่งหากมีรัฐบาลที่ต่อเนื่อง จะทำให้การเจรจาต่อรองทำได้ง่ายขึ้น แต่กัมพูชาคงอยากได้รัฐบาลที่ยอมทำตามเงื่อนไขของกัมพูชามากกว่า
"ประชาชนต้องเลือก ถ้าต้องการเป็นมิตรกับนายกฯ ฮุนเซ็นแล้วยอมเสียดินแดน ก็สนับสนุนพรรคเพื่อไทยได้ แต่ถ้าเลือกประชาธิปัตย์ เราจะยืนยันในการปกป้องประเทศไทย" นายกรัฐมนตรี กล่าว