นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย อ่านแถลงการณ์กลุ่มพันธมิตรฯ ว่า จะยุติการชุมนุมในวันพรุ่งนี้(1 ก.ค.) ในเวลา 20.00 น. โดยให้เหตุผลว่าเนื่องจากประเทศไทยได้ถอนตัวจากการเป็นภาคีสมาชิกคณะกรรมการมรดกโลกแล้ว ตามที่กลุ่มพันธมิตรฯ เรียกร้อง โดยกลุ่มพันธมิตรฯ ขอเวลา 5 วันในการเก็บของและเคลื่อนย้ายกลับ
อย่างไรก็ดี ก่อนที่กลุ่มพันธมิตรฯ จะยุติการชุมนุม จะมีการจัดเวทีปราศรัยใหญ่ควบคู่กับการปราศรัยของพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคเพื่อไทยก่อน
นายปานเทพ ยังกล่าวถึงบรรยากาศการหาเสียงเลือกตั้งในช่วงโค้งสุดท้ายว่า มีขบวนการทำลายกระแสโหวตโนอย่างมาก โดยเฉพาะการใช้สื่อของรัฐเชิญนักวิชาการที่ไม่เห็นด้วยกับการโหวตโน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าสื่อของรัฐขณะนี้ถูกชี้นำ และถือเป็นการไม่ให้ความเป็นธรรมกับผู้รณรงค์โหวตโนได้มีโอกาสนำเสนอข้อเท็จจริงหรือโต้แย้งผ่านสื่อของรัฐเลย
ทั้งนี้ ยืนยันว่าการที่กลุ่มพันธมิตรฯ รณรงค์การกากบาทลงในช่องไม่ประสงค์ลงคะแนนนั้น มิได้มีเจตนาในเรื่องของกฎหมายเป็นตัวเบื้องต้นตั้งแต่ตอนแรก แต่ต้องการแสดงออกในเชิงสัญลักษณ์ที่ประชาชนต้องการให้คะแนนของประชาชนไม่ไปทำร้ายหรือทำบาปให้กับประเทศชาติ ที่จะให้ฝ่ายชนะไปทุจริตคอรัปชั่น ทำลายบ้านเมือง หรือฝ่ายค้านไปยอมจำนนเป็นผู้แพ้ต่อผู้ชนะที่ไปทุจริตคอรัปชั่นในสภา
"มาตรการโหวตโน จึงเป็นสัญลักษณ์ในการเรียกร้องเพื่อสร้างอำนาจต่อรองให้กับประชาชน ยิ่งมีมาก ยิ่งไม่ต้องมีการชุมนุมก็ได้ ยิ่งมีอำนาจต่อรองมาก ยิ่งนำไปสู่การปฏิรูปการเมืองก็ได้" นายปานเทพ กล่าว
ด้าน พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวว่า เป็นครั้งแรกของการเมืองไทยที่มีการรณรงค์โหวตโนอย่างกว้างขวาง จึงมีการโต้แย้งมากขึ้น ยิ่งมีการโต้แย้งจะยิ่งเป็นการกระพือโหมให้ประชาชนสนใจมากขึ้น ทั้งนี้จะเห็นได้ว่าการเลือกตั้งล่วงหน้าเมื่อวันที่ 26 มิ.ย.ที่ผ่านมา พบว่ามีผู้ไปใช้สิทธิ์ลงคะแนนมากเป็นประวัติการณ์ อันเนื่องมาจากการรณรงค์โหวตโนของพันธมิตรฯ ในครั้งนี้
"กกต. ควรจะขอบคุณพวกเราที่ทำให้การเลือกตั้งคึกคักขึ้น มิฉะนั้นการเลือกตั้งจะเป็นไปอย่างหงอยเหงาเหมือนคราวที่ผ่านมา การรณรงค์โหวตโนเมื่อได้ผลอย่างมากมายก็ทำให้พรรคการเมืองต่างๆ เริ่มไหวหวั่น บางพรรคมีป้ายออกมาเพื่อต่อต้านการรณรงค์โหวตโน" พล.ต.จำลอง กล่าว
พร้อมกล่าวว่า การที่ประชาชนจำนวนมากให้การสนับสนุนการโหวตโนที่ถือเป็นเรื่องใหม่นั้น มองว่าเป็นเรื่องที่ดี และคิดว่าไม่น่าจะต้องหาทางหักล้างหรือทำลายกันในเรื่องนี้ โดยย้ำว่าการลงคะแนนโหวตโนทำเพื่อประเทศชาติและบ้านเมืองเป็นหลัก ไม่ใช่ทำเพื่อพรรคใดหรือคนใดคนหนึ่ง และไม่ได้คำนึงถึงตัวเองหรือพรรคของตัวเอง