นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิตย์ ขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่โค้งสุดท้ายก่อนวันเลือกตั้ง 3 ก.ค.ที่ลานพระบรมรูปรัชกาลที่ 5 ภายใต้หัวข้อ"อนาคตประเทศไทย ใต้ฟ้าเดียวกัน"โดยเรียกร้องให้ประชาชนออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งเพื่อเดินหน้าประเทศไทย ซึ่งตนเองรับรู้ความต้องการของประชาชนและพร้อมตอบสนองหากได้เข้ามาเป็นรัฐบาลอีกครั้ง
"ประเทศไทยพร้อมจะเดินไปข้างหน้า ไปใช้สิทธิเลือกตั้งเพื่อเดินหน้าประเทศไทย คนไทยและสังคมไทยจะไม่มีความแตกแยกแตกต่าง เราคนไทยทุกคนอยู่ใต้ฟ้าเดียวกัน เราเปียกฝนด้วยกัน รู้สึกไม่แตกต่างกัน คนไทยแต่ละคนก็มีความต้องการไม่แตกต่างกัน"นายอภิสิทธิ์ กล่าวบนเวทีปราศรัยท่ามกลางสายฝนค่ำวันนี้
หัวหน้าพรรค ปชป.กล่าวว่า จากที่ได้เดินสายหาเสียงเลือกตั้งช่วง 40 วันที่ผ่านมาได้พบประชาชนทั่วประเทศ รับทราบความต้องการ ความทุกข์ร้อนที่ไม่แตจกต่างกัน ประชาชนทุกคนต้องการมีรายได้เพิ่มขึ้น ต้องการต่อสู้กับภาวะของแพง ต้องการมีชีวิตื่ดีกว่า ชีวิตที่มั่นคง คนส่วนใหญ่ของประเทศที่เป็นเกษตรกรต้องการหลุดพ้นจากการเป็นกลุ่มคนที่ชีวิตมีแต่ความไม่แน่นอน ขึ้นกับดินฟ้าอากาศ และราคาพืชผล อีกทั้งหลุดพ้นจากการเป็นคนกลุ่มเดียวในประเทศที่ไม่มีหลักประกันในบั้นปลายชีวิต
ผู้ปกครองต้องการเห็นลูกหลานเติบโตได้รับกรศึกษาที่ดี มีคุณภาพ มีโอกาส มีอาชีพ มีรายได้ และเป็นคนดีของสังคม ไม่ต้องการเห็นเด็ก ชุมชน บ้านเมือง ต้องเผชิญภัยคุกคามอย่างยาเสพติด และคนที่รักประเทศไทยไม่ต้องการเห็นการแบ่งแยกประชาชน และไม่ต้องการเห็นความรุนแรงอีกต่อไป
"2 ปีที่ผ่านมา ผมทราบดีว่า ปัญหาเหล่านี้ คือปัญหาที่เราต้องเผชิญ ผมได้ทุ่มเททำงาน 2 ปีที่ผ่านมาเป็นการทำงานที่เราทุ่มเท เพื่อแก้ปัญหาเหล่านี้ เริ่มตั้งแต่ที่เราเคยให้คำมั่นสัญญากันว่า 99 วัน เราจะผลักดัน เรียนฟรี 15 ปี มีเงินส่งมาให้เป็นค่าเล่าเรียนส่วนหนึ่ง ที่โรงเรียนไม่เก็บค่าอุปกรณ์ ตำรา เครื่องแบบนักเรียน ภายใน 99 วัน เราทำได้จริง"นายอภิสิทธิ์ กล่าว
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า รัฐบาลได้ทำให้ผู้สูงอายุทักคนได้รับค่ายังชีพ 500 บาท/ปีเท่าเทียมกัน จากเดิมที่มีผู้มีสิทธิ์ได้รับเพียง 7 ล้านคน เกษตรกรที่เป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศอยู่กับความไม่แน่นอนมานาน นโยบายจำนำพืชผลเป็นเรื่องที่ไม่เป็นธรรม เนื่องจากมีการกำหนดโควต้า แต่นโยบายประกันราคาเป็นหลักประกันว่าเกษตรกรไม่ขาดทุนแน่นอน
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เหล่านี้เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้น แต่ยังต้องเดินหน้าทำงานกันอีกมาก ประชาชนต้องตัดสินใจเลือกระหว่างพรรคประชาธิปัตย์กับพรรคเพื่อไทย พรรคประชาธิปัตย์จะดำเนินหน้าทำนโยบายดีๆ ด้วยการทำงานอย่างซื่อสัตย์ อดทน อดกลั้น ร่วมทุกร่วมสุข ไม่ว่าปัญหาอุปสรรคต่างๆ จะเป็นอย่างไรก็ไม่เคยถอยจะเดินหน้าเพื่อประชาชนอย่างเดียว
"พรรคเพื่อไทยขาก็เดินหน้าเหมือนกัน แต่ผมไม่คิดว่าเขาเดินหน้าให้กับพี่น้อง วันนี้เขาก็อยู่ที่สนามรัชมังคลากีฬาสถาน ภาพที่ผมเห็นผมนึกถึงเมื่อประมาณ 2 ปีก่อน เสื้อแดงทั้งประเทศไปชุมนุมที่นั่นประกาศชัดว่าวาระของเขาเรื่องสำคัญที่สุด คือ พา"ทักษิณ"กลับบ้าน ผมยังยืนยันว่าวาระนี้ของเขาไม่เปลี่ยนแปลง"นายอภิสิทธิ์ กล่าว
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ป้ายหาเสียงของพรรคเพื่อไทยที่ขึ้นทั่วประเทศ วันนี้ไม่น่าเชื่อคนของเขาบอกว่าไม่ได้เป็นอย่างที่ป้ายเขียน ค่าแรง 300 บาทแล้วเข้าใจว่าค่าแรงขั้นต่ำแต่จริง ๆ แล้วหมายถึงบางคนและต้องผ่านการอบรม ส่วนนโยบายผู้ที่จบปริญญาตรีต้องได้เงินเดือน 15,000 บาท ก็ไม่ใช่ให้ทุกคน แต่ต้องมีการกลั่นกรอง อบรม กำหนดมาตรฐาน
ส่วนนโยบายที่บอกว่าจะแจกคอมพิวเตอร์ให้กับเด็กทุกคน ตอนออกข่าวนำคอมพิวเตอร์ราคา 2 หมื่นบาท/เครื่องมาโชว์ แต่วันที่ดีเบตนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย อธิบายว่าคอมพิวเตอร์ที่จะแจกราคาแค่ 3-4 พันบาท/เครื่อง แล้วล่าสุดก็บอกว่าแจกเฉพาะเด็กป. 1
แต่มีนโยบายหนึ่งที่เขาไม่เคยเปลี่ยนแปลง คือ ป้ายที่บอกว่า"ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ" แต่แล้วพรรคเพื่อไทยมาปฎิเสธว่าไม่ได้ทำเพื่อ พ.ต.ท.ทักษิณคนเดียว แต่ พ.ต.ท.ทักษิณก็ไม่หยุดพูด หยุดคิด ยังให้สัมภาษณ์ว่าจะกลับมาเมืองไทยโดยไม่ติดคุก ถ้าไม่มีการนิรโทษกรรมจะล้างความผิดได้อย่างไร และเงิน 4.6 หมื่นล้านบาทพรรคเพื่อไทยก็ยังต้องทำเพื่อเอาไปคืนให้ พ.ต.ท.ทักษิณ
"เรายอมรับไม่ได้ เพราะนั่นคือ การเอาคน 1 คนมาสำคัญกว่าคนทั้งประเทศ พรรคประชาธิปัตย์มีนายใหญ่แต่ไม่อยู่ดูไบ อยู่ข้างหน้า ข้างหลังผมคือ พี่น้องประชาชนเพราะวันนี้ประชาธิปัตย์จะเดินหน้าประเทศไทยเพื่อพี่น้องคนไทยทุกคน ปากท้องของแพง ปัญหาอันดับ 1 เราเป็นพรรคการเมืองที่มุ่งมั่นช่วยลดปัญหาพี่น้องประชาชน" นายอภิสิทธิ์ กล่าว
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า สิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์จะเดินหน้าหากได้กลับมาเป็นรัฐบาล คือ การตรึงราคาก๊าซหุงต้มถังละ 300 บาทต่อไป ราคาน้ำมันดีเซลต้องไม่เกิน 30 บาท มาตรการใช้ไฟฟ้าฟรีจะเปลี่ยนเป็นนโยบายถาวร พลิกฟื้นชีวิตเกษตรกรด้วยโครงการประกันรายได้ แต่พรรคเพื่อไทยกลับประกาศยกเลิกถ้าได้เป็นรัฐบาล ซึ่งเชื่อว่าเกษตรกรไม่ยอมแน่นอน เพราะการประกันรายได้ทำให้ผู้ที่เป็นหนี้นอกระบบหลุดพ้นจากภาระ
นอกจากจะเดินหน้าแล้วไม่เพียงประกันรายได้ แต่จะปรับราคาเงินประกันส่วนต่างเพิ่มขึ้น เนื่องจากค่าปุ๋ยและค่ายาแพงขึ้น จะเพิ่มกำไรให้เกษตรกรอีก 25% ค่าแรงขึ้นต่ำต้องปรับขึ้น 25% ภายใน 2 ปีโดยไม่มีเงื่อนไข ซึ่งทำได้จริงเพราะมีการศึกษาแล้วด้วยการลดต้นทุนให้กับภาคเอกชนด้านอื่น ด้านการศึกษานโยบายเรียนฟรีต้องเดินต่อ 15 ปี ไม่พอ กองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษาทมี่ขณะนี้มีปัญหาเงินกองทุนไม่พอ ก็จะเพิ่มให้อีก 2.5 แสนทุนต่อ/ปี เพื่อผู้ที่ต้องการเรียนในระดับอุดมศึกษาได้กู้ยืม
สำหรับโครงการช่วยเหลือการซื้อบ้านหลังแรกด้วยเงินกู้ 0% 2 ปี หากพรรคได้กลับไปเป็นรัฐบาลจะเพิ่มวงเงินกู้อีก 2.5 หมื่นล้านบาทหลังจากที่วงเงินก้อนแรกหมดลงไปแล้ว พร้อมทั้งเปิดให้มีการขึ้นทะเบียนแก้หนี้นอกระบบรอบใหม่ในเดือน ส.ค.จากที่มีผู้ขึ้นทะเบียนไว้แล้วกว่า 4 แสนราย พร้อมทั้งเพิ่มความเข้มข้นในนโยบาย 315 ทำอยู่ที่ กทม.ปริมณฑล เพื่อปราบปรามจับกุมยาเสพติดขยายไปทั่วประเทศ จัดเพิ่มกองกำลังพิเศษเพื่อปราบยาเสพติดให้หมดไปจากประเทศ รวมทั้งเดินหน้าปราบคอรัปชั่น
พรรรคฯ คิดถึงประเทศในระยะยาว ความมั่นคงในชีวิตของประชนตั้งแต่ก่อนเกิดจนตาย ระบบสวัสดิการที่กำลังสร้างขึ้น เช่น กองทุนเงินออม การทำให้ผู้ที่เคยไม่มีสิทธิได้รับโอกาสเข้าสู่ระบบประกันสังคม คือการนำไปสู่ระบบสวัสดิการถ้วนหน้าภายในปี 2559 ทุกเรื่องมีคำตอบชัดเจน
"ถ้าเราพลิกฟื้นเกษตรกรให้มีชีวิตมั่นคงขึ้น ครัวไทยเป็นครัวโลกแน่นอน ๆ ไม่มีปัญหา ทำงานมา 2 ปี อุตสาหกรรมหลัก ๆ อย่างยานยนต์เติบโตอีกไม่เกิน 3 ปี ติด 10 อันดับแรกของโลกในฐานะผู้ผลิตยานยนต์ แล้วใครจะขวางใครจะเผา แต่คนทั่วโลกมาเที่ยวไทยสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในขณะนี้ ทุกอย่างเดินหน้าต่อ ปัญหามามีต้องแก้ไข แต่ให้ความมั่นใจว่าไม่มีเรื่องไหนที่ละเลย"นายอภิสิทธิ์ กล่าว
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า พรรคจะเดินหน้าเพื่อประชาชนเพื่อประเทศชาติเพื่อคนไทยทุกคน แต่การเดินหน้าประเทศไม่ใช่เฉพาะเรื่องนโยบาย ไม่ใช่เฉพาะวิสัยทัศน์ การเดินหน้าประเทศอยู่ที่จิตวิญญาณ อุดมการณ์ และแนวทางการทำงานทางการเมือง หากเอาการเมืองที่นิยมความรุนแรง กลุ่มคนที่เอาพวกพ้องตัวเองเป็นใหญ่ ประเทศไทยจะเดินหน้าไม่ได้
เป็นไปได้หรือไม่ที่คนไทยจะให้รางวัลกับคนที่ทำความแตกแยกให้กับแผ่นดินของเรา พรรคเพื่อไทยลบล้างนโยบายดี ๆ คิดแค่นิรโทษกรรม แต่พรรคประชาธิปัตย์มาพูดเรื่องใต้ฟ้าเดียวกัน เป็นศูนย์รวมของคนไทยทุกคน ด้วยการปกครองระบอบประชาธิปัตย์อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข หมายถึงทุกคนอยู่ภายใต้กฎหมายเท่าเทียมกัน ฟ้าเดียวกันนี้ไม่มีใครรวมตัวเป็นหมู่เป็นเหล่าแล้วเอากฎหมายมาอยู่ภายใต้กฎหมู่
"ถ้าเราอยากเดินหน้าประเทศไทย ปฏิเสธความรุนแรง อยากดับไฟประเทศ อยากให้ประเทศไทยได้รับการยอมรับในระดับสากล เราไม่มีทางเลือกอื่น ต้องใช้รัฐบาลที่ทุ่มเททำงานให้ประชาชนเต็มร้อย...ผมขอโอกาสอีก 4 ปี สมานบาดแผลในแผ่นดิน ทำให้ประเทศไทยมั่นคงและคนไทยมั่นคง"หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว