โฆษกกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ระบุกรณีเจ้าหน้าที่สถานทูตอินโดนีเซียเข้าไปสำรวจพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ เมื่อวานนี้(7 ก.ค.) เป็นเรื่องสุ่มเสี่ยงที่ทำให้ไทยถลำลึกไปอีกขั้น การกระทำเช่นนี้จะกลายเป็นโล่กำบังไม่ให้ทหารไทยผลักดันชาวเขมรที่เข้ามาอาศัยในบริเวณดังกล่าวออกไป ซึ่งจะส่งผลต่อการประชุมจีบีซีในอนาคต
"เมื่อผู้สังเกตการณ์เต็มทีมเข้ามาแล้วไทยจะเสียอธิปไตยบริเวณนั้นอย่างไม่มีกำหนดเวลา จนกว่าการปักเขตแดนจะเป็นที่พอใจของเขมร" นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าว
ทั้งนี้ไม่ว่าศาลโลกจะมีคำสั่งออกมาอย่างไรไทยก็เสียเปรียบอยู่ดี หากศาลออกมาตรการคุ้มครองให้กัมพูชา ไทยจะต้องถอนกำลังทหารทั้งหมดออกจากเขาวิหาร ทำให้เสียเปรียบในเวทีการเมืองและศาลโลก แต่หากศาลโลกมีมติไม่คุ้มครองให้กัมพูชา ศาลโลกจะถือว่าฝ่ายไทยยอมรับอำนาจศาลโลกไปโดยปริยาย หลังจากนั้นศาลโลกจะไปตีความพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตรเป็นของกัมพูชาหรือไม่
ขณะนี้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ยังรักษาการในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รักษาการในตำแหน่ง รมว.กลาโหม หาก พล.อ.ประวิตร เชิญทูตอินโดนีเซียเข้ามาสังเกตการณ์โดยปราศจากความเห็นชอบจากมติคณะรัฐมนตรี(ครม.) หรือไม่ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภา ในท้ายที่สุด พล.อ.ประวิตร ต้องถูกดำเนินคดีอาญาอย่างแน่นอน แต่หากได้รับความเห็นชอบจากรัฐบาล นั่นหมายความว่ารัฐบาลเลือกที่จะตัดสินใจด้วยตัวเอง ทำให้ไทยเสียเปรียบก่อนหมดวาระตัวเอง
"การกระทำเช่นนี้มองได้สองทาง คือ พล.อ.ประวิตร จับมือกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เพื่อให้ได้นั่งเก้าอี้ รมว.กลาโหม ต่อไป อีกทางอาจเป็นการวางยาของรัฐบาลรักษาการทำให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เผชิญกับปัญหาอธิปไตยของชาติ ตอนนี้ต้องรอดูให้ชัดอีกทีว่าใครเป็นคนออกคำสั่งให้ทูตอินโดนีเซียเข้ามาสังเกตการณ์ หากทราบตัวแน่ชัดแล้ว เราจะยื่นต่อ ป.ป.ช.เอาผิดออกคำสั่ง ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ" นายปานเทพ กล่าว
โฆษกกลุ่มพันธมิตรฯ กล่าวว่า กรณี พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ไปยื่นผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภา เพื่อให้การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นโมฆะนั้น เดิมที พล.ต.จำลอง ไม่ได้ติดใจจะเอาเรื่องนี้ แต่ด้วยความที่มีคนกว่า 2 ล้านคนถูกบังคับให้เลือกตั้งล่วงหน้าโดยพวกเขาไม่รู้ว่าจะต้องถอนรายชื่อออกก่อนถึงจะเลือกตั้งปกติได้ ทำให้เสียสิทธิไปเฉยๆ ตัวเลขตรงนี้มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงจำนวน ส.ส. ซึ่งตนเองค่อนข้างมั่นใจน่าจะทำให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ ด้วยเหตุสืบได้ว่าบกพร่องจริงๆ กระทรวงมหาดไทยกับ กกต.คงเห็นเรื่องนี้ดี แต่ด้วยความที่ต้องใช้งบมากสำหรับการจะดึงรายชื่อเข้าฐานข้อมูลเดิม จึงปล่อยให้เลยตามเลยไป
"เป็นความคิดที่มักง่าย ไม่ยอมรับผิด สำหรับคนที่แพ้การเลือกตั้งแล้วมาโจมตีเป็นเพราะโหวตโน ต่อให้คนโหวตโนเทคะแนนให้พรรคประชาธิปัตย์ทั้งหมดก็ไม่ชนะพรรคเพื่อไทย เพราะในทางภูมิศาสตร์ อีสานเป็นเขตใหญ่เมื่อประชาธิปัตย์เข้าไม่ถึง อย่างไรก็ไม่ชนะ หากไม่แก้ไขข้อบกพร่องตัวเองจะเลือกตั้งกี่ครั้งก็แพ้" นายปานเทพ กล่าว