คณะทำงานฝ่ายกฎหมายของพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) เตรียมยื่นเรื่องให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) พิจารณายุบพรรคเพื่อไทย(พท.) และตัดสิทธิทางการเมืองผู้ที่เกี่ยวข้อง กรณีฝ่าฝืน พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 97 ที่ปล่อยให้ผู้ถูกตัดสิทธิทางการเมืองเข้าครอบงำ
"คณะทำงานจะเดินทางไปยื่นกรณีบ้านเลขที่ 111 เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับพรรคเพื่อไทย ทั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย และสมาชิกบ้านเลขที่ 111 รวมถึงบุคคลคนอื่นๆ กระทำการยิ่งกว่ากรรมการบริหารพรรค" นายวิรัตน์ กัลยาศิริ คณะทำงานฝ่ายกฎหมายของพรรค ปชป.กล่าว
โดยที่ผ่านมาบุคคลเหล่านี้เข้ามามีบทบาทในการกำหนดตัวผู้สมัคร ส.ส.ทั้งแบบแบ่งเขตและแบบบัญชีรายชื่อ รวมทั้งร่วมกำหนดนโยบายพรรค คือ "ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ" ซึ่งอาจฝ่าฝืน พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 97 ที่ระบุไว้ชัดว่า ห้ามผู้ถูกตัดสิทธิทางการเมืองสั่งพรรคการเมือง และเป็นกรรมการบริหารพรรค
"อยากให้ กกต.ดำเนินการตามอำนาจ เพราะหากผิดจริงจะมีโทษยุบพรรคเพื่อไทย ตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรค ตัดสิทธิเลือกตั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ และนายจาตุรนต์เพิ่มอีกคนละ 5 ปี เพราะเป็นการกระทำการขัดต่อเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญ" นายวิรัตน์ กล่าว
นอกจากนี้ คณะทำงานฯ ยังมีเรื่องร้องเรียนอื่นๆ เช่น เลขาธิการภาคีเครือข่ายต่อต้านคอร์รัปชั่นแห่งชาติได้ไปยื่นหนังสือถึง กกต.ตั้งแต่วันที่ 6 มิ.ย.ที่ผ่านมา ขอให้พิจารณาคุณสมบัติของนายจตุพร พรหมพันธุ์, นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ, นพ.เหวง โตจิราการ, พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย, นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไท, นายพายัพ ปั้นเกตุ, นายก่อแก้ว พิกุลทอง และนายวิเชียร ขาวขำ ซึ่งเป็นผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ และผู้สมัครแบบแบ่งเขต ได้แก่ นายการุณ โหสกุล, นายวรชัย เหมะ และนายสถาพร มณีรัตน์ เนื่องจากขาดจากการเป็นสมาชิกภาพพรรคฯ โดยขอให้ กกต.ไม่ประกาศรับรองสมาชิกภาพ
ส่วน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อลำดับที่ 1 ทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง เพราะให้นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ และนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญได้ตัดสิทธิทางการเมืองไปแล้วร่วมขึ้นขบวนรถแห่เพื่อช่วยหาเสียงเลือกตั้ง ซึ่งอยากให้ กกต.หยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาพิจารณาด้วย
นายวิรัตน์ กล่าวว่า การยื่นเรื่องร้องเรียนให้ตรวจสอบสมาชิกบ้านเลขที่ 111 และบ้านเลขที่ 109 ไม่ได้ระบุว่าต้องเป็นเฉพาะพรรคการเมืองใด แต่หากเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับพรรคการเมืองไหน กกต.ต้องดำเนินการให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน ไม่เป็นสองมาตรฐานอย่างแน่นอน