นายเกษียร เตชะพีระ อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า หลังเลือกตั้งคนไทยต้องการความปรองดองมากที่สุด หลังเกิดวิกฤตใหญ่ทางการเมืองเมื่อปีที่แล้ว แต่การเปลี่ยนย้ายอำนาจจากชนชั้นนำมายังชนชั้นนำทางธุรกิจ การเมืองที่มาจากการเลือกตั้งแสดงออกเป็นรูปธรรมผ่านความขัดแย้งระหว่างชนชั้นระบบราชการและกลุ่มทุนเก่าที่เป็นพันธมิตรซึ่งมักเรียกกันว่าอำมาตย์ กับกลุ่มทุนใหม่ที่เข้าสู่วงการเมืองโดยตรงอาจนำไปสู่ความขัดแย้งได้
"เป็นการเลือกตั้งที่ผู้คนพลเมืองฝากความหวังไว้มากว่าอาจจะน่ามาซึ่งความปรองดองและสงบสุขหลังมรสุม รวมทั้งความมั่นคงและการเดินหน้าต่อไปของบ้านเมืองหลังจากปัญหาขัดแย้งผันผวนทางการเมือง สร้างผลกระทบเสียหายร้ายแรงมากว่า 5 ปี" นายเกษียร กล่าวในงานสัมมนา "ขับเคลื่อนประเทศไทยภายใต้บริบทเศรษฐกิจสังคมยุครัฐบาลใหม่"
นอกจากนี้ ปัญหาสีเสื้อสีต่างๆ โดยการเคลื่อนไหวผ่านแสดงออก ผ่านการปรากฏขึ้น และบทบาทโดดเด่นครอบงำสังคมการเมืองมาตลอด ทั้งกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย(เสื้อเหลือง) กับแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(เสื้อแดง) โดยที่ต่างฝ่ายก็มีความแตกต่างหลากหลายอยู่ภายใน การเคลื่อนไหวต่อสู้ขัดแย้งระหว่างสองขบวนการภายใต้การนำแบบหลวมๆ ของแกนน่ากำหนดให้การเมืองระยะที่ผ่านมากลายเป็น "การเมืองเสื้อสี" หรือ "สงครามระหว่างสี"
"ทั้งหมดนี้ต้องมีการแก้ไขความปรองดองเป็นเรื่องสำคัญที่สุดและรัฐบาลต้องทำให้เกิดขึ้นจริง เพื่อแก้ไขปัญหาที่ผ่านมาได้ตลอด 5 ปีที่ผ่านมา" นายเกษียร กล่าว
อย่างไรก็ตามต้องใช้หลักนิติธรรมในแก้ปัญหาพิสูจน์ความจริงเรื่อง 91 ศพ เพื่อให้ปัญหาทั้งหมดยุติลง รวมทั้งการพิสูจน์ความชอบธรรมโดยการคำนึงถึงผลประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าผลประโยชน์ส่วนตน