นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่าที่ ส.ส.ปาร์ตี้ลิส ลำดับที่ 1 พรรคเพื่อไทย และว่าที่นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การจัดตั้ง ครม.จะดำเนินการจัดในประเทศไทย ร่วมกับคณะกรรมการของพรรค ส่วนการที่มี ส.ส.หลายกลุ่ม เดินทางไปประเทศบรูไน คงเป็นเรื่องส่วนตัวไม่เกี่ยวกับพรรค พร้อมปฎิเสธว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นัดจัดโผครม.ที่ฮ่องกง ทั้งนี้การจัดตั้งครม.มีขั้นตอน ซึ่งคงมีเวลาอีกเกือบเดือน
"ต้องดูผลสุดท้ายค่ะ เพราะว่าดิฉันเองก็กำลังทำงานกับทีมงาน ก็ยังไม่มีคำตอบเรื่องของการตั้งครม. เพราะเราเองยังอยู่ในช่วงของการพิจารณา ต้องหารือกับพรรคร่วม อะไรหลายอย่าง ยังไม่ถึงเวลาหรอกที่จะตั้งครม.วันนี้" นางสาวยิ่งลักษณ์ กล่าว
นอกจากนี้ยังไม่ทราบเรื่องที่มีชื่อ พล.อ.สมทัต อัตตะนันท์ อดีต ผบ.ทบ. นั่งตำแหน่งรมว.กลาโหม ซึ่งขณะนี้ยังเร็วเกินไปที่จะคุยเรื่องครม. เพราะต้องรอให้นโยบายของรัฐบาลมีความชัดเจนก่อน หลังจากนั้นจึงจะพิจารณาผู้ที่จะมารับตำแหน่งใน ครม.
ทั้งนี้เมื่อเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแล้วพร้อมที่จะหารือเพื่อขอคำแนะนำจาก ผบ.ทบ. เพราะในอนาคตจะต้องต้องทำงานด้วยกัน และยังเชื่อมั่นในคำพูดของกองทัพที่ ยอมรับผลการเลือกตั้งแล้ว และจะไม่มีการปฏิวัติรัฐประหาร
นางสาวยิ่งลักษณ์ ยังกล่าวถึงปรากฏการณ์ความขัดแย้งของกลุ่มคนเสื้อแดงในขณะนี้ ว่า มันไม่ใช่ความขัดแย้ง แต่เป็นการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่างกัน แต่สุดท้ายถ้ามีกฎ กติกาชัดเจนเชื่อว่าคนเสื้อแดงทุกคนจะยอมรับ เพราะการทำงานต้องยึดหลักการด้วยกัน ไม่ใช่จะเลือกใครคนใดคนหนึ่งเป็นพิเศษ แต่เลือกผู้ที่มีความรู้ความสามารถมาทำงานให้ประเทศชาติและพี่น้องประชาชนเพื่อให้นโยบายต่างๆสำเร็จ สัมฤทธิ์ผลโดยเร็ว
"เชื่อมั่นว่า สุดท้ายความเห็นที่ขัดแย้งสุดท้ายจะลงตัว เพราะพี่น้องเราทำงานมาด้วยกันก็เชื่อว่าเราคุยกันได้ อันนี้ก็เป็นแต่ละท่านแสดงความคิดเห็นที่เรายินดีเปิดกว้าง" น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าว
นอกจากนี้พร้อมชี้แจงคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) หลังพรรคประชาธิปัตย์ จะยื่นยุบพรรคเพื่อไทยในเรื่องที่ พ.ต.ทักษิณและบ้านเลขที่111 เข้ามายุ่งเรื่องของการทำนโยบายและจัดคนเป็นรัฐมนตรี ยืนยันว่า ผู้ที่ยุ่งเกี่ยวกับพรรคเพื่อไทยวันนี้เป็นหน้าที่ของคณะทำงานและคณะกรรมการ และทีมเศรษฐกิจของพรรค โดยที่ พ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้เข้ามายุ่ง จึงหวังว่าผู้ที่พิจารณาเรื่องนี้จะให้ความยุติธรรม
นางสาวยิ่งลักษณ์ ยังกล่าวปฏิเสธ ถึงแนวคิดการตั้ง สสร.3 เพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า ว่า ยังไม่มีการหารือเรื่องนี้ เพราะนโยบายเร่งด่วนขณะนี้ คือการแก้ไขปัญหาปากท้อง ค่าครองชีพ การหารายได้เข้าประเทศและการทำอย่างไรให้ประเทศชาติก้าวไปสู่ความปรองดอง