สำนักวิจัยเอแบคโพลล์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (เอแบค) เสนอผลสำรวจ เรื่องอารมณ์ความรู้สึกของสาธารณชนภายหลัง กกต. ประกาศแขวน ว่าที่ส.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไปใน 17 จังหวัดของประเทศ
ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยเอแบคโพลล์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เปิดเผยว่า ผลวิจัยเชิงสำรวจ เรื่อง อารมณ์ความรู้สึกของสาธารณชนภายหลังการประกาศแขวน ว่าที่ ส.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไปใน 17 จังหวัดของประเทศ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร กำแพงเพชร เพชรบูรณ์ เชียงใหม่ เพชรบุรี สระบุรี นครปฐม ชลบุรี มหาสารคาม ร้อยเอ็ด นครราชสีมา เลย ขอนแก่น อุบลราชธานี นราธิวาส สงขลา และนครศรีธรรมราช จำนวนทั้งสิ้น 2,114 ตัวอย่าง ดำเนินโครงการระหว่าง วันที่ 12 - 16 กรกฎาคม 2554 ที่ผ่านมา โดยมีช่วงความคลาดเคลื่อนบวกลบร้อยละ 7 จากการเลือกตัวอย่างและวิธีการสุ่มตัวอย่างครั้งนี้ ประเด็นสำคัญที่ค้นพบครั้งนี้ คือ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 71.3 รู้สึก งง สงสัย ไม่ชอบ ไม่พอใจ ภายหลังทราบข่าว กกต. ประกาศไม่รับรอง ว่าที่ ส.ส. นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ในขณะที่ร้อยละ 13.8 เห็นด้วย และร้อยละ 14.9 ระบุเฉยๆ ไม่รู้สึกอะไร
เมื่อถามถึงระดับปัญหาทางการเมืองของประเทศ ถ้า กกต. ไม่รับรอง ว่าที่ ส.ส. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ พบว่า เกินครึ่ง หรือร้อยละ 54.7 เกรงว่า จะเกิดปัญหาความรุนแรงระดับมาก ถึง มากที่สุด ในขณะที่ ร้อยละ 28.9 ระบุปานกลาง และร้อยละ 16.4 ระบุ น้อย ถึง ไม่มีปัญหาเลย
เมื่อถามถึง ความรู้สึกผิดหวังของประชาชน ถ้า กกต. ไม่รับรอง ว่าที่ ส.ส. นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 57.8 จะรู้สึกผิดหวังมาก ถึงมากที่สุด ในขณะที่ร้อยละ 24.1 ผิดหวังระดับปานกลาง และร้อยละ 18.1 ระบุ น้อย ถึงไม่ผิดหวังเลย อย่างไรก็ตาม ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 80.4 อยากให้โอกาส นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้เป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของประเทศไทย ในขณะที่ร้อยละ 19.6 ไม่คิดเช่นนั้น ที่น่าพิจารณาคือ เกินครึ่งหรือร้อยละ 55.3 ก็อยากให้โอกาส แกนนำคนเสื้อแดงได้เป็นรัฐมนตรี เช่นกัน แต่ร้อยละ 44.7 ไม่คิดเช่นนั้น นอกจากนี้ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 76.4 เชื่อว่า กกต. จะรับรอง นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ในขณะที่ร้อยละ 23.6 ไม่คิดเช่นนั้น
เมื่อถามถึงความคิดเห็นต่อแนวคิดให้รับรองว่าที่ ส.ส. ไปก่อนเพื่อเปิดสภาได้ พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 75.6 ระบุเห็นด้วย ร้อยละ 24.4 ระบุไม่เห็นด้วย
ที่น่าพิจารณาคือ ความคิดเห็นของประชาชนต่อ ข่าว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ออกมามีบทบาทในช่วงการก่อตั้งรัฐบาลโดยพรรคเพื่อไทย พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 65.3 ไม่เห็นด้วย เพราะ จะเกิดการต่อต้านจากกลุ่มที่ไม่สนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และอาจทำให้เกิดปัญหาวุ่นวายได้ ควรอยู่เบื้องหลัง ควรอยู่เฉยๆ อาจเกิดอุปสรรคทำให้พรรคเพื่อไทยจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ และกลัวประเทศชาติถอยหลังเกิดการยึดอำนาจอีก เป็นต้น ในขณะที่ร้อยละ 34.7 เห็นด้วย เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นคนมีความสามารถ จะช่วยแก้ปัญหาแย่งชิงตำแหน่งรัฐมนตรี และเป็นผู้มีบารมีทางการเมืองจะคุมความขัดแย้งได้ดี เป็นต้น
ผอ.เอแบคโพลล์ กล่าวว่า ผลสำรวจครั้งนี้ชี้ให้เห็นชัดเจนว่า อารมณ์ความรู้สึกของสาธารณชนในตอนนี้อยากเห็นประเทศชาติก้าวต่อไปข้างหน้า การฟอร์มหรือการจัดตั้งรัฐบาลโดยพรรคเพื่อไทยน่าจะเป็นสิ่งที่ประชาชนส่วนใหญ่หวังและอยากให้โอกาสพรรคเพื่อไทย และนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้แสดงความสามารถบริหารประเทศแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนตามที่เคยหาเสียงไว้ก่อน ส่วนการวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ ในเวลาอาจเป็นเพียง “สมมติฐาน" และ “อคติ" ที่ต้องรอการพิสูจน์จากความเป็นจริงและข้อมูลที่เกิดขึ้นตามมาจากผลกระทบของการทำงานโดยรัฐบาลของพรรคเพื่อไทยในอนาคต ดังนั้น เพื่อรักษาระบบของการปกครองแบบประชาธิปไตยในสังคมไทยเอาไว้ ทุกฝ่ายน่าจะยอมรับมติของมหาชนและตั้งระบบเตรียมตัวตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลใหม่อย่างเข้มข้นโดยยกระดับการมีส่วนร่วมของประชาชนทั้งประเทศให้เพิ่มมากขึ้นกว่าอดีตที่ผ่านมา น่าจะเป็นสัญญาณที่ดีต่อเสถียรภาพการเมืองการปกครองของประเทศไทยต่อไป