สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนเรื่อง "ความเครียดของคนไทยหลังการเลือกตั้ง" พบว่า ในประเด็นความเครียดทางการเมืองนั้น ประชาชนส่วนใหญ่ 47.37% ยังเครียดเท่าเดิมเมื่อเทียบกับก่อนการเลือกตั้ง เนื่องจากยังไม่เห็นการเมืองไทยเปลี่ยนแปลงเป็นรูปธรรมชัดเจน ,นักการเมืองบางคนยังมีพฤติกรรมเหมือนเดิม และการแย่งชิงอำนาจก็ยังมีให้เห็นอยู่ตลอด
ขณะที่ประชาชน 28.07% ระบุว่าเครียดเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม เพราะหลังจากการเลือกตั้งเสร็จสิ้นลง ยังไม่เห็นการเมืองไทยเดินหน้าเท่าที่ควร, กกต.ยังไม่สามารถประกาศรับรอง ส.ส.ได้ถึง 95% โดยเฉพาะกรณีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์, กลัวบ้านเมืองวุ่นวายอีกครั้ง แต่มีประชาชน 24.56% ที่ระบุว่า เครียดลดลง เนื่องจากบรรยากาศทางการเมืองดีขึ้น รอเพียงการจัดตั้งรัฐบาลและให้โอกาสรัฐบาลใหม่บริหารประเทศต่อไป
ส่วนประเด็นความเครียดทางสังคม โดยเฉพาะด้านชีวิตความเป็นอยู่, ยาเสพติด, อาชญากรรม ของประชาชนหลังการเลือกตั้งเมื่อเทียบกับก่อนการเลือกตั้ง พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ 53.58% ระบุว่า เครียดเท่าเดิม เพราะชีวิตในสังคมปัจจุบันต้องมีความระแวดระวังอยู่ตลอดเวลา ภัยต่างๆ ในสังคมมีมาก จะรอให้นักการเมืองมาดูแลทั้งหมดคงเป็นไปไม่ได้ ประชาชนต้องดูแลตัวเอง
ส่วนอีก 39.28% ระบุว่า เครียดเพิ่มมากขึ้น เพราะเมื่อใดที่บ้านเมืองยังไม่สงบสุข สังคมย่อมเกิดความวุ่นวายเป็นธรรมดา จิตใจคนในสังคมตกต่ำ ขาดคุณธรรม จริยธรรม ขณะที่อีก 7.14% ระบุว่า เครียดลดลง เพราะคาดว่ารัฐบาลชุดใหม่จะทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชน ชีวิตความเป็นอยู่ ปัญหายาเสพติดและความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินจะลดลง
สำหรับประเด็นความเครียดทางด้านเศรษฐกิจ เช่น ราคาสินค้าอุปโภคบริโภค รายได้ หนี้สิน ปัญหาปากท้องของประชาชนหลังการเลือกตั้ง เมื่อเปรียบเทียบก่อนการเลือกตั้ง พบว่า ประชาชน 58.92% ระบุว่าเครียดเพิ่มมากขึ้น เพราะบ้านเมืองในวันนี้ยังมองไม่เห็นใครที่จะเข้ามาแก้ปัญหาได้จริง ยังไม่รู้แน่ชัดว่าใครที่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรี, ของกินของใช้ น้ำมัน ยังมีราคาแพง, ภาระค่าใช้จ่ายในครอบครัวมีมาก รายได้ไม่พอกับรายจ่าย ต้องกู้หนี้ยืมสินทั้งในและนอกระบบ
ขณะที่ประชาชน 35.72% ระบุว่าเครียดเท่าเดิม เพราะการเปลี่ยนแปลงทางด้านเศรษฐกิจมีหลายปัจจัย โดยเฉพาะเรื่องของเสถียรภาพ ความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อการเมืองและปัจจัยภายนอก ได้แก่ ภาวะเศรษฐกิจโลกที่ผันผวนอยู่ตลอดเวลา โดยมีประชาชนเพียง 5.36% ระบุว่า เครียดลดลง เพราะเชื่อมั่นในประสิทธิภาพของรัฐบาลชุดใหม่ว่าจะเข้ามาแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ปากท้องของประชาชนได้, การประกาศขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ, มีการวางแผนปรับตัวให้เข้ากับภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน เครียดไปก็เท่านั้น
ทั้งนี้ จากความเครียดหลังการเลือกตั้งที่ยังมีอยู่นั้น ประชาชนอยากให้รัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหาสำคัญใน 3 อันดับ คือ อันดับ 1 ปัญหาเศรษฐกิจ/ ของแพง น้ำมันแพง/ ค่าครองชีพ การจ้างงาน ความเป็นอยู่และปากท้องของประชาชน อันดับ 2 ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน/ ปัญหาอาชญากรรม ยาเสพติด ผู้มีอิทธิพล และอันดับ 3 การจัดตั้งรัฐบาลโดยเร็ว /การประกาศตัวนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี
อนึ่ง ผลสำรวจดังกล่าว มาจากความคิดเห็นประชาชนในกรุงเทพฯ และปริมณฑล จำนวนทั้งสิ้น 1,292 คน ดำเนินการสำรวจระหว่างวันที่ 14-17 ก.ค.54