นางสดศรี สัตยธรรม หนึ่งในคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"ว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ กกต.วันนี้มีมติเป็นเอกฉันท์ยกคำร้องข้อร้องเรียนการกระทำผิดในช่วงหาเสียงเลือกตั้งของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่าที่ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ อันดับ 1 ของพรรคเพื่อไทย และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ว่าที่ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่ออันดับ 1 ของพรรคประชาธิปัตย์ และรับรองผลการเลือกตั้งของบุคคลทั้งสอง
พร้อมกันนั้น ยังรับรองผลการเลือกตั้ง ส.ส.เพิ่มอีก 10 คน ได้แก่ นายสุเทพ เทือกสุบรรรณ เขต 2 สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์, นายธานินทร์ ใจสมุทร เขต 1 สตูล พรรคชาติไทยพัฒนา, นายวินัย ภัทรประดิษฐ์ พิจิตร พรรคชาติไทยพัฒนา, น.ส.ชิณนิชา วงศ์สวัสดิ์ เขต 3 เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย, นายองอาจ วชิรพงศ์ เขต 5 พระนครศรีอยุธยา พรรคเพื่อไทย, นายบุญแก้ว สมวงศ์ เขต 2 ยโสธร พรรคเพื่อไทย, น.ส.ตรีนุช เทียนทอง เขต 2 สระแก้ว พรรคเพื่อไทย, นายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ เขต 2 อุตรดิตถ์ พรรคเพื่อไทย, นายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย เขต 3 อุตรดิตถ์ พรรคเพื่อไทย, นายสุทธิชัย จรูญเนตร เขต 5 อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย
โดยทั้งหมดที่รับรองในวันนี้ยังไม่มีรายชื่อของแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.)เลย เพราะอยู่ระหว่างการพิจารณาข้อร้องเรียนต่าง ๆ เช่นเดียวกับ ว่าที่ ส.ส.ที่เหลือ
นางสดศรี กล่าวว่า รายชื่อส.ส.ที่เหลืออีก 130 คน ที่ประชุมเห็นว่า สำนวนสอบสวนยังไม่แล้วเสร็จ จึงให้อนุกรรมการนำกลับไปพิจารณาและส่งกลับมาที่ประชุมเพื่อพิจารณารับรองส.ส.เพิ่มเติมอีกในวันที่ 21 ก.ค.
"กกต.จะสามารถทยอยประกาศรับรองรายชื่อ ส.ส.ที่เหลืออีก 130 คน ได้ทันภายใน 30 วันหลังการเลือกตั้ง และสามารถเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎรชุดใหม่ได้ โดยในการประชุมรอบต่อไปจะมีขึ้นในวันที่ 21 ก.ค.นี้"
ส่วนกรณีของผุ้ชุมนุมที่มากดดันนั้น ทาง กกต.ไม่ได้หยิบยกขึ้นมาเป็นเงื่อนไข เพราะถือว่าทำตามพยานหลักฐาน แต่ได้มอบให้สำนักงานกฎหมายกกต.ไปรวบรวมหลักฐาน โดยเฉพาะเนื้อหาการปราศรัยจะเข้าข่ายหมิ่นประมาท กกต.หรือไม่ เพื่อจะดำเนินคดีความต่อไป